สภาพัฒน์ เผยปัญหาหนี้ครัวเรือนยังสูง จับตาสินเชื่อรถยนต์ มีปัญหาผิดนัดชำระเสี่ยงเป็นหนี้เสียมากขึ้น แนะคนมีหนี้หยุดซื้อของไม่จำเป็น ไม่สร้างหนี้ใหม่ การตลาดโปรโมชันผ่อน 0% มีส่วนทำให้คนเป็นหนี้เพิ่ม
วันนี้ (22 พ.ค.66) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/66 ว่า ปัญหาหนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง คุณภาพสินเชื่อยังต้องติดตามสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่างใกล้ชิด เพราะเริ่มมีปัญหาการชำระหนี้เสี่ยงเป็นหนี้เสียมากขึ้น ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคล ยังเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น
ในไตรมาส 4/65 หนี้สินครัวเรือน มีมูลค่า 15.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% ชะลอตัวจาก 4.0% ของไตรมาสที่ผ่านมา แต่เมื่อปรับฤดูกาลเพิ่มขึ้น 1.1% จากไตรมาสก่อน และมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 86.9% ความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนทรงตัว โดยสัดส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวมในระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 2.62% ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
“หนี้สินครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ถึงแม้หลายภาคส่วนจะร่วมกันแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่หนี้ที่พุ่งขึ้นมาแล้วต้องใช้เวลาที่จะทำให้ลดลง และไม่ควรรอให้ใครมาช่วยแก้หนี้ ควรเริ่มที่ตัวเรา โดยต้องรู้ให้ทันรู้ให้เข้าใจการใช้จ่าย การซื้อสินค้าบางอย่างที่ไม่จำเป็น เพื่อจัดการหนี้เดิม และไม่สร้างหนี้ใหม่ และการตลาดที่ให้ผ่อน 0% ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น” นายดนุชากล่าว
ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนไตรมาแรกของปีนี้จะขยายตัวมากขึ้นจนเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่หรือไม่ ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องน่ากังวล ดังนั้น จึงต้องมีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นงานท้าทายของทุกรัฐบาลที่จะดูแลไม่ให้หนี้ครัวเรือนพุ่งจนฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ
