สาวระยองร้องมูลนิธิปวีณา ตั้งครรภ์ใกล้คลอด เด็กไม่กลับหัว ครรภ์เป็นพิษ รพ.ประจำอำเภอไม่พร้อมผ่าคลอด ส่งตัวช้า 13 ชม. สูญเสียลูก

View icon 700
วันที่ 21 พ.ค. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (21 พ.ค. 66) น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เดินทางจาก จ.ระยอง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีตั้งครรภ์ใกล้คลอด แต่ครรภ์เป็นพิษ ทางโรงพยาบาลส่งตัวช้า จนต้องสูญเสียลูกในครรภ์

น.ส.น้อย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ตนตั้งครรภ์ร่วม 9 เดือน ได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งตามนัด แพทย์ตรวจพบแม่มีความดันโลหิตสูง และครรภ์เป็นพิษ เวลา 15.00 น. โดยแพทย์ได้ทำการอัลตราซาวด์บอกว่า ตอนนี้เด็กยังไม่กลับหัว ยังหันก้นออก ซึ่งทางโรงพยาบาลอำเภอผ่าคลอดไม่ได้ แต่กลับไม่รีบส่งไปโรงพยาบาลจังหวัด และยังให้ยาเหน็บเร่งคลอด 2 ครั้ง ครั้งแรกตอน 18.00 น. ครั้งที่ 2 ตอนเที่ยงคืน พอช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 10 พ.ค. แม่รู้สึกว่ามีอาการน้ำเดิน จึงแจ้งพยาบาล และแพทย์ได้ตรวจภายในพบว่าปากมดลูกเปิด 4 ซม. จะทำคลอด แต่เด็กหันเอาเท้าออก จึงทำคลอดไม่ได้ ทางโรงพยาบาลอำเภอจึงจะส่งตัวไปผ่าคลอดที่โรงพยาบาลจังหวัด

น.ส.น้อย บอกอีกว่า ตนนอนรอจนเกือบถึงเวลา 04.00 น. ถึงได้ถูกส่งตัวไป ตอนนั้นแพทย์ตรวจพบว่าเด็กยังมีชีพจรอยู่ และไปถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัดเวลาประมาณ 05.00 น. แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลประจำจังหวัดมาตรวจ ก่อนบอกให้แม่ทำใจ เพราะพบว่าเด็กไม่มีชีพจรแล้ว ซึ่งตอนนั้นแม่ใจสลายที่เสียลูก ขณะเดียวกันมดลูกก็เปิดเต็มที่ จึงได้เบ่งคลอดลูกที่ไร้วิญญาณออกมาตามธรรมชาติ และแม่ก็อาการแย่เกือบจะไม่รอด ความดันโลหิตสูงถึง 170 แต่แพทย์ช่วยไว้ได้ทัน

น.ส.น้อย บอกทั้งน้ำตาว่า ปกติเวลาตรวจพบว่าครรภ์เป็นพิษต้องรีบผ่าคลอด เพราะอาจเป็นอันตรายทั้งแม่และเด็ก ตนจึงสงสัยว่า 1.ทำไมโรงพยาบาลอำเภอถึงไม่รีบส่งตัวตั้งแต่ตรวจพบครรภ์เป็นพิษช่วง 15.00 น. เมื่อรู้ว่าทางโรงพยาบาลผ่าคลอดไม่ได้ รวมเวลาที่อยู่โรงพยาบาลอำเภอถึง 19 ชั่วโมง จนเด็กเสียชีวิตในท้อง ถ้าหากส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัดเร็วกว่านี้ ลูกตนคงไม่ตาย 2.อยากให้โรงพยาบาลชี้แจงสาเหตุ และให้ความเป็นธรรมกับลูกตน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นอีก ไม่มีใครที่ไม่เสียใจ เพราะอุ้มท้องมาถึง 9 เดือน ความรู้สึกคนเป็นแม่ก็แย่ทุกคน แล้วถ้าตนเสียชีวิตไปกับน้องด้วย ใครจะเลี้ยงลูกตนอีก 2 คนที่ยังเล็กและกำลังเรียนหนังสือ ยังดีที่โรงพยาบาลจังหวัดช่วยชีวิตตนไว้ได้ทัน ตอนนี้ตั้งศพลูกไว้ที่วัดป่าหวาย ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และจะยังไม่เผาศพลูก จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จึงมาขอพบนางปวีณา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกตน

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ที่ผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากผู้เสียหายแจ้งว่า สภ.ปลวกแดง ไม่รับแจ้งความ ทั้งนี้หากจะต้องส่งชันสูตรพลิกศพ นางปวีณา จะประสานทาง พ.ต.อ.วีพงษ์ ส่งศพเด็กมาชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกันนี้ นางปวีณา ได้ประสาน นางนพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดูแลสภาพจิตใจผู้เสียหาย 

นางปวีณา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน.ส.น้อย เรื่องนี้ต้องให้กระทรวงสาธารณสุขตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทำไม น.ส.น้อย มาโรงพยาบาลและตรวจพบครรภ์เป็นพิษเวลา 15.00 น. ผ่านไป 13 ชั่วโมง ไม่มีใครตัดสินใจที่จะส่งตัวไปโรงพยาบาลจังหวัดก่อนหน้านี้หรือ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ให้ได้รับข้อสรุปเพื่อผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้ นางปวีณา ได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนพ.รุ่งเรือง รับปากจะเร่งดำเนินการตรวจสอบ และส่งเรื่องให้สาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง