หุ้นธนาคารเครดิตสวิสร่วงต่ำสุด แบงก์ชาติสวิตเซอร์แลนด์เข้าอุ้ม

View icon 33
วันที่ 16 มี.ค. 2566
รอบรั้วรอบโลก
แชร์
ธนาคารเครดิตสวิส เผย เตรียมกู้เงิน 54,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อแก้วิกฤต หลังหุ้นธนาคารร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่อันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า จะกู้ยืมเงินจากธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss National Bank) เป็นจำนวน 54,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง และดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมา หลังจากเมื่อวานนี้ หุ้นธนาคารสวิสดิ่งลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ โดยวิกฤตธนาคารดังกล่าว มีขึ้นหลังจากธนาคาร 3 แห่งของสหรัฐฯ ล้ม จนรัฐบาลต้องเข้าไปอุ้มเพราะหวั่นว่าจะส่งผลกระทบเป็นโดมิโน

นอกจากนี้ ธนาคารเครดิตสวิสเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ธนาคารจะนำทางเลือกในการกู้เงินจากธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์มาใช้ หลังได้รับการยืนยันจากทางการว่า ธนาคารเครดิตสวิสเข้าเกณฑ์ทั้งด้านเงินทุนและสภาพคล่องของการเป็นธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบ จึงทำให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องจากแบงก์ชาติได้

ทั้งนี้ ธนาคารเครดิตสวิสนับเป็นธนาคารหลักระดับโลกแห่งแรก ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551 ซึ่งธนาคารเครดิตสวิสประสบปัญหาในการหาเงินทุนเพิ่มเติม จากบรรดานักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่เชื่อมั่นในธนาคารและข้อจำกัดต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด คือ ธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ที่ยืนยันว่าจะไม่เพิ่มการลงทุน

ส่วนที่อาร์เจนตินา กำลังประสบกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2534 หรือในรอบ 32 ปี โดยข้อมูลรัฐบาลอาร์เจนตินาเผยให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อในรอบ 12 เดือน ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นถึง 102.5 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อาร์เจนตินาติดอันดับหนึ่งในประเทศที่มีเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลก ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วนี้มาจากหลายปัจจัย รวมทั้งการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจของธนาคารกลางอาร์เจนตินา ภาวะภัยแล้ง และคลื่นความร้อนที่ทำลายผลผลิตทางการเกษตร และกระทบการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรของประเทศ