ปราปต์ปฎล บุก DSI เปิดอักษรย่อขบวนการตบทรัพย์

View icon 46
วันที่ 7 มี.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ปราปต์ปฎล ดารารุ่นใหญ่ บุกดีเอสไอ เปิดชื่อตัวอักษรย่อขบวนการตบทรัพย์ ในคดีฟอกเงินของตนเองที่มีความเกี่ยวเนื่องกับแชร์ลูกโซ่ Forex-3D โดยชื่ออักษรย่อที่เปิดมา เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมทั้งหมด

เมื่อช่วง 10.00 น. ที่ผ่านมา นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมาเปิดเผยความจริงต่อสื่อมวลชน ถึงขบวนการตบทรัพย์ เรียกรับเงินของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมทั้งเปิดเผยผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าว

นายปราปต์ปฎล กล่าวว่า วันนี้ได้มายื่นหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดี ฐานความผิดร่วมกันฟอกเงินที่ทางดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหาตนไป ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ โดยตลอด 5 เดือน ที่ผ่านมา ตนได้รับผลกระทบกับชีวิตอย่างหนัก ชีวิตพังเนื่องจากไม่มีงาน เพราะผู้จัด หรือ ผู้ผลิตหนังและละคร ขอให้ตนไปจัดการเรื่องคดีความให้เรียบร้อยก่อน

ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่ผ่านมา เลขาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และทางอธิบดี ดีเอสไอ ได้พูดย้ำกับผู้สื่อข่าวหลายรอบว่า ดารา ป. (ตนเอง) ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงประชาชนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ Forex3D แต่ได้รับข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงิน ซึ่งทำให้ตนนั้นไม่เข้าใจเพราะเมื่อไม่เกี่ยวข้อง กับ คดี Forex3D แล้วจะไปมีคดีฟอกเงินได้อย่างไร

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้มีการชี้แจงว่าที่เกี่ยวกับคดีฟอกเงิน เนื่องจาก ตนได้ทำการเคลื่อนทรัพย์ขับรถจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการนำทรัพย์ไปปกปิดซ่อนเร้น ซึ่งความจริงแล้วมันมีที่มาที่ไป ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วว่าการขับรถในครั้งนั้นเป็นรถของแฟนตน ซึ่งตอนนั้นแฟนตนยังไม่ได้โดนข้อกล่าวหาคดีใด ๆ และเป็นรถที่ใช้ในชีวิตประจำวันปกติ แต่ที่ไปเคลื่อนย้ายให้วันนั้นเพราะตอนนั้น แฟนของตนมีคดีที่ สน.สุทธิสาร เนื่องจากมีเพื่อนสาวประเภทสองคนหนึ่งงัดห้องและนำทรัพย์สินในห้องไป

โดนอ้างว่าตนถูก นายอภิรักษ์ ผู้ต้องหาในคดี Forex3D ฉ้อโกงไป ดังนั้นเมื่อแฟนสาวตนไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย Forex3D ทรัพย์สินนั้นก็ควรเป็นของตนด้วย วันนั้นตนจึงไปย้ายรถให้ และหลังจากนั้นตนได้พาแฟนสาวไปแจ้งความตามกฎหมาย

ต่อมาได้มีการสอบสวนสาวประเภทสองคนนี้ โดยได้มีการซักทอดไปยังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่ง ตอนนั้นเอง ตนจึงได้รู้ว่ากระบวนการเข้าไปงัดห้องครั้งนั้น มีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ รู้เห็นด้วยคือเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งในศูนย์คดียาเสพติด เมื่อรู้ดังนั้นตนจึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่นิติของคอนโด ทำให้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ท่านนี้เข้าไปแบบปกติโดยไม่ได้แสดงตัว หรือ บัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ สุดท้ายจึงนำไปสู่การแจ้งคดี 157 กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ซึ่งตนไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย เพราะทุกอย่างเป็นหลักฐาน หรือ คำให้การที่สาวประเภทสองคนดังกล่าวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ดังนั้น การที่ไปเลื่อนรถยนต์ส่วนตัวให้แฟนเพื่อหนีสาวประเภทสองคนดังกล่าว กลับกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอมองว่าตนไปย้ายทรัพย์เพื่อหนีการยึดทรัพย์ของดีเอสไอ ซึ่งตอนนั้นตนไปย้ายทรัพย์เมื่อต้นกรกฎาคมปี 2563 แต่กลับมาแจ้งข้อกว่าหาตนในปี 65 จึงรู้สึกว่าการแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินกับตนนั้น ไม่ถูกต้อง และวันนี้ตนพร้อมที่จะให้ขุดค้นดูเส้นทางการเงินได้หมดเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์

นายปราปต์ปฎล กล่าวอีกว่า หลังจากที่แฟนสาวถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ ทางทนาย ฮ อ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ติดต่อมาทางเพื่อนของแฟนบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือทางคดีซึ่งได้คุยกันเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 65 หลังจากนั้นได้นัดเจอกันที่ร้านแห่งหนึ่ง เพื่อพูดคุยกันโดยทางทนาย ฮ เรียกเงินหลักสิบล้านบาท นำไปให้ผู้ใหญ่ช่วยทำให้สำนวนเบาลงพอตนได้ฟังแล้วรู้สึกอึ้งได้แต่เงียบทำงานมา 30 กว่าปีไม่มีปัญญาขนาดนั้น ซึ่งทาง ทนาย ฮ บอกว่าแฟนของตนซวยที่ไปแต่งงานกับ อภิรักษ์ ไม่ว่าจะผิด หรือ ถูกมันมีราคาของความยุติธรรมอยู่ พอได้ฟังแล้วทำให้ทนแทบร้องไห้สงสัยว่าความยุติธรรมต้องใช้เงินหรือไม่

โดยในการคุยครั้งนั้นมีทั้งหมด 4 คน คือ ตน ทนาย ฮ เพื่อนของแฟนอีก 2 คน ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นแชท ที่ ทนาย ฮ คุยเพื่อของแฟน ตอนนี้รวบรวมไว้ทั้งหมดแล้ว

หลังจากคุยกับ ทนาย ฮ ได้ไม่ถึงเดือนตนถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน จึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ผ่านมานิ่งเฉยมาโดยตลอด เพราะเกรงใจผู้ใหญ่กลัวทำให้เกิดความเสียหาย แต่ถึงเวลาที่ต้องออกมาปกป้องตนเอง ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหารัฐมนตรี เนื่องจากทนาย ฮ อ้างว่าเป็นที่ปรึกษามาเรียกตบทรัพย์ส่วนรัฐมนตรีจะรู้เห็นหรือไม่ ตนไม่รู้

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง ทนาย ฮ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น โดยทนาย ฮ บอกว่า สิ่งที่ นายปราปต์ปฎล พูดออกมานั้น อาจจะหมายถึงตนเอง และชี้แจงว่ามีการนัดหมายจริง ที่โรงแรมดังกล่าว แต่คุยกันที่ห้องอาหารอย่างเปิดเผย ไม่ได้เป็นการแอบพูดคุย ซึ่งการเจรจา เพื่อนของแฟน นายปราปต์ปฎล เป็นคนติดต่อมาหาตนเองให้ ไปช่วยทำคดีดังกล่าว ซึ่งการพูดคุยมีการคุยกันเรื่องเงินจริง แต่ไม่ได้บอกจำนวน ซึ่งเงินเป็นเงินค่าทนายความในการทำคดีดังกล่าว และค่าวิชาชีพ รวมถึงค่าดำเนินการต่าง ๆ และยืนยันว่าไม่มีการกล่าวอ้างถึง เลขารัฐมนตรีฯ หรือ รัฐมนตรี ว่าจะสามารถช่วยเคลียร์คดีได้ และยังยืนยันว่า ตนเองไม่ได้พูดคำว่า "ความยุติธรรมมีค่าที่ต้องจ่าย" ส่วนเรื่องแชต ทนาย ฮ ยันว่าไม่ได้ไปพิมพ์ในแชตเพื่อนของแฟน นายปราปต์ปฎล ตามที่ นายปราปต์ปฎล พูด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง