ศพผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์รถตู้คว่ำ ไฟไหม้ ที่จ.นครราชสีมาถึงบ้านแล้ว ญาติโศกเศร้า ร้องถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าของบริษัทรถตู้ หลังไม่เคยมาขอโทษ เยียวยา อ้าง ยุ่งอยู่กับการที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ
จากอุบัติเหตุรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง เสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 100 – 99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา กลางดึกของวันที่ 21 ม.ค. 2566 จนเกิดไฟลุกท่วมรถตู้ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 11 คน มีผู้รอดชีวิตเพียง 1 คน
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แม่เตรียมให้ลูกชายบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต 11 คน เหตุไฟไหม้รถตู้ที่โคราช
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.66) หลังจากที่ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางด้านมูลนิธิเพชรเกษม ได้นำศพผู้เสียชีวิต เดินทางกลับมาที่จังหวัดอำนาจเจริญ และได้มาถึงที่วัดสำราญนิเวศ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เมื่อช่วงเวลา 20:30 น. ซึ่งทางจังหวัดได้มีการทำพิธีมาติกาบังสุกุล ให้กับศพผู้เสียชีวิต บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต รวมไปถึงผู้ที่มาร่วมงาน
น.ส.อรพรรณ อายุ 28 ปี ลูกสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เปิดเผยว่า อยากให้ทางเจ้าของบริษัทรถตู้ดังกล่าว มาขอโทษพร้อมกับรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง ทางเจ้าของยังไม่ได้มีการมาขอโทษหรือรับผิดชอบใด
เบื้องต้นที่ได้คุยกันทางเจ้าของรถตู้ บอกเพียงว่าตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการที่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ไม่ได้ทอดทิ้งหรือจะไม่รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาว่าจะมีเยียวยารับผิดชอบอย่างไร
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสียพ่อ ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัว อยากฝากไปถึงเจ้าของรถตู้ทุกคน อยากให้มีความปลอดภัยมากกว่านี้ อยากให้คนขับรถตรวจสอบความพร้อมของตัวเองก่อนที่จะขับรถ เพราะชีวิตของผู้โดยสารทุกคนอยู่ที่คนขับ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
วานนี้มีศพผู้เสียชีวิตที่กลับถึงจ.อำนาจเจริญจำนวน 9 ศพ ส่วนอีก 2 ศพ เพิ่งตรวจอัตลักษณ์เสร็จจะนำศพเดินทางกลับมาที่จังหวัดอำนาจเจริญ ในวันนี้ (4 ก.พ.66)
สำหรับการนำศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาที่จังหวัดอำนาจเจริญ ทางมูลนิธิเพชรเกษมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับญาติ ด้วยการนำศพจากที่วัดสำราญนิเวศ ไปส่งที่บ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อที่จะให้ได้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
