ความพ่ายแพ้ต่อ “กุหลาบดำ สจ. เปี๊ยกอุทัย” ในศึก No Surrender III เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ส่งผลให้เส้นทางกำปั้นของ “แสงมณี พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” ต้องพลิกผัน มีการเปลี่ยนสังกัดค่ายมวย ก่อนจะมาลงตัวกับ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และเริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมา จนได้กลับมาสู่ศึก ONE Championship (วัน แชมเปียนชิพ) อีกครั้ง โดยเป็นฝ่ายชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ “จาง เฉิงหลง” คู่ต่อสู้ชาวจีน ในศึก ONE 161 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามยอดมวยวัย 25 ปี ยอมรับว่าไฟต์ล่าสุดกับ “จาง” ทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ตัวเองคาดหวัง เมื่อได้รับโอกาสรีแมตช์กับ “กุหลาบดำ สจ. เปี๊ยกอุทัย” ในฐานะคู่เอกศึก ONE ลุมพินี 2 “แสงมณี พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” จึงมุ่งมั่นโชว์ฟอร์มให้ดุดันมันเร้าใจกว่าเดิมเพื่อคว้าชัยแบบประทับใจแฟนมวย
“สำหรับผมถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แก้มือ ผมค้างคาใจมานานแล้ว ผมดูคลิปไฟต์ที่แพ้น็อก กุหลาบดำ ครั้งนั้นบ่อยมาก เพื่อหาว่าตัวเองพลาดยังไง เก็บทุกอย่างมาเป็นประสบการณ์ เพื่อที่จะมาแก้ไข ไฟต์นี้ผมมั่นใจว่าตัวเองมีดีพอที่จะไปแก้มือกับกุหลาบดำ อย่างแน่นอน”

เกือบ 2 ปีที่ “กุหลาบดำ สจ. เปี๊ยกอุทัย” ห่างหายจากเวที ONE Championship (วัน แชมเปียนชิพ) นับตั้งแต่แพ้ เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ในศึก Full Blast เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 ทำให้ยอดมวยเมืองสุรินทร์ ทุ่มเทฝึกซ้อมเสริมอาวุธเพื่อพร้อมลุยเต็มที่หลังจากการสวมนวมแบบเปิดนิ้วขนาด 4 ออนซ์ เข้าทางกับสไตล์การชกแบบบู๊ดุเดือดของเขา
“ก่อนการชกไฟต์แรกแฟนมวยพากันมองว่ายังไงผมก็สู้ แสงมณี ไม่ได้ ผมเก็บคำวิจารณ์เหล่านั้นมาตั้งใจฝึกซ้อม ด้วยความมุ่งมั่นว่าผมจะต้องชนะเขาให้ได้ เพราะผมโดนสบประมาทไว้เยอะ การชกในวันศุกร์ที่ 27 มกราคมนี้ ผมพร้อมเต็มที่ในการเจอ แสงมณี รอดูบนเวทีว่าใครจะทำผลงานได้ดีกว่ากันครับ”

ติดตาม ONE Championship และ ONE ลุมพินี ได้ที่ : https://www.ch7.com/one-championship