ทางการจีนส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มที่กรุงปักกิ่ง ป้องกันการประท้วงต่อต้านนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" (zero-COVID) และการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" ลาออก ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันนี้ (29 พ.ย. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนเข้าประจำตามจุดต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่ง อย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนออกมาประท้วงต่อต้านนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" (zero-COVID) ของประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง"
หลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากในหลายเมืองทั่วประเทศ ออกประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดต่าง ๆ รวมทั้งการล็อกดาวน์ และบางส่วนเรียกร้องให้ผู้นำจีนลาออกจากตำแหน่ง โดยที่ผ่านมาการประท้วงในกรุงปักกิ่ง เป็นไปอย่างสงบ แต่การประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ เกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่มีการนำแผงกั้นมาวางป้องกันในจุดที่เคยมีการประท้วง อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ชาวจีนรวมตัวประท้วงไม่พอใจมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น
ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า การประท้วงอย่างเปิดเผยในจีน เพื่อต่อต้านรัฐบาลกลาง และการขับไล่ประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" เช่นนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่จะมีคนจำนวนมากออกมารวมตัวกันและเสี่ยงต่อการถูกจับกุม และถือเป็นการประท้วงที่ขยายวงกว้างมากที่สุด นับตั้งแต่ "สี จิ้นผิง" อยู่ในอำนาจมา 10 ปี
นอกจากนี้ ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง มีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ออกมาวางดอกไม้ไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ในเมืองอุรุมชี พร้อมกับถือกระดาษเปล่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วงต่อต้านมาตรการเข้มงวดโควิด-19 ในจีน และหลังจากรวมตัวกันเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามากั้นพื้นที่ และแจ้งให้กลุ่มผู้ประท้วงสลายตัว
