นางแบบโคกกระโดน - THE RUSTIC MODEL

นางแบบโคกกระโดน - THE RUSTIC MODEL

แชร์

นางแบบโคกกระโดน : วันพฤหัสบดีที่ 5 เม.ย. 2555 เวลา 16:45 น.
นำแสดงโดย : พาทิศ พิสิฐกุล,แซมมี่ เคาวเวลล์,กฤษฎา สุภาพพร้อม,กวินตรา โพธิจักร,นนทพันธ์ ใจกันทา,ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์,อาริษา วิลล์
ผู้กำกับ : ประทุม มิตรภักดี
ผู้เขียนบท :

เมื่อนางแบบสาวสุดเวอร์ ต้องยูเทิร์นมาเจอกับหนุ่มบ้านนอกความรักของเขาจะเปลี่ยน เธอให้กลับสู่ตัวตนที่แท้จริงได้หรือไม่

Laura is a model who is aspiring to be an International Super Model and as a result is trying to erase her background. She is engaged to James but her relationship comes to a grinding halt and at the same time she also found out that the paparazzis were digging into her past.

ในวงการแคทวอล์กของไทยยุคเมืองแห่งแฟชั่นนี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก ลอร่านางแบบสาวลูก ครึ่งที่ร้อนแรงที่สุด เธอเป็นนางแบบชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่พยายามผลักดันตัวเองให้ก้าวไปสู่ ระดับอินเตอร์ แต่ด้วยความเรื่องมากของเธอจึงได้สมญาว่านางแบบจอมเวอร์ ปากจัด ชอบพูดจา ดูถูกคนอื่น ทั้งเย่อหยิ่งและจู้จี้จุกจิกจนคนทำงานด้วยต้องเอือมระอา ด้วยสโลแกนประจำตัวเธอว่า “ทุกอย่างต้องเพอร์เฟ็ค” เธอเกลียดความเป็นไทยอย่างเข้าไส้ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของ ความเชย โดยเฉพาะหมอลำที่เธอหาว่าเสี่ยว ถ้าได้ยินคนใกล้ชิดเปิดให้ได้ยินเป็นต้องกรี๊ดไปแปด ตลบด้วยความรังเกียจ เธอคลั่งไคล้วัฒนธรรมตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกัน ถึงขั้นบูชา ถึงขนาดว่า ถ้ามีการตกแต่งยีนให้เป็นฝรั่งผิวขาวได้ก็คงทำไปแล้ว แม้แต่คนใช้ก็ยังต้องเปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่งให้ หมด เช่น แจ๋วเปลี่ยนเป็นเจเน็ต เธอบอกทุกคนว่าพ่อเป็นนักธุรกิจชื่อดังอยู่ที่อเมริกา ส่วนแม่เป็น คนไทยที่สืบเชื้อสายผู้ดีเก่ามาเจ็ดชั่วโคตร ตัวเธอเองก็จบไฮสคูลจากอเมริกา จากการพูดภาษาไทย ด้วยเสียงขึ้นจมูกปนสำเนียงฝรั่งของเธอ ก็ทำให้ทุกคนเชื่อสนิทว่า เธอเป็นนักเรียนนอกที่ฉลาดล้ำ เลิศจนได้สมญานามว่า “เจ้าหญิงแห่งวงการนางแบบ” แต่แท้จริงแล้วทั้งหมดเป็นภาพที่ เจ๊มลแมว มอง ซึ่งกลายมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของลอร่าสร้างให้เป็นตัวตนใหม่ของเธอ เพื่อจะผลักดันให้ เธอโกอินเตอร์ แม้ลึกๆแล้วลอร่าจะยังชอบกินส้มตำปลาร้าอยู่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่ชอบ บางครั้ง เธอแอบไปจกส้มตำปลาร้า นั่งเมาท์กับกับช่างแต่งหน้าบ้างจนเกือบจะหลุดภาษาบ้านเกิด แต่ถูก เจ๊มลห้ามไว้และเรียกไปอบรมยืดยาวเป็นชั่วโมง ลอร่ามี แอ๋วช่างแต่งหน้าประจำตัวเป็นเพื่อนสนิท แอ๋วมักจะชวนลอร่าไปทำอะไรที่เจ๊มลห้าม เพราะรู้ว่าลอร่าชอบแต่ต้องถูกกดดันจากเจ๊มล เช่น พา ลอร่าปลอมตัวเป็นสาวโรงงานไปจกส้มตำอยู่ข้างโรงงาน แต่ทั้งสองก็มักจะหลุดเปิ่นๆโก๊ะๆ ให้คน อื่นจับได้จนนักข่าวเอาไปลงหนังสือพิมพ์ ให้เจ๊มลตามล้างตามเช็ดอยู่เสมอ เจ๊มลยังจับคู่ให้ลอร่า กับ เจมส์หนุ่มไฮโซลูกครึ่งเป็นแฟนกัน เขาคือลูกชายเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ที่เธอ เป็นพรีเซ็นเตอร์เจ้าประจำอยู่ ทั้งสองเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก เพราะฝ่ายชายทั้งหล่อเนี้ยบและร่ำรวยมหาศาล แถมเป็นลูกผู้ดีมีตระกูลอย่างที่หญิงสาวทั้งประเทศใฝ่ฝัน ความโรแมนติกของเขา ที่มีต่อแฟนสาวก็เป็นที่ร่ำลือไปทั่ว จนใครๆคิดว่าเป็นคู่ในอุดมคติแห่งยุค ทั้งสองวางแผนไว้ว่าจะ แต่งงานกันในเร็ววันนี้ ลอร่าได้แต่วาดฝันถึงชีวิตอันเลิศหรูสวยงามในแวดวงสังคมมีระดับ และ ก้าวไปสู่การเป็นนางแบบระดับอินเตอร์ตามที่ฝันไว้ เธอเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันนั้น แต่แล้วในวัน แถลงข่าวการจัดงานแฟชั่นไทยสู่อินเตอร์ที่เธอคิดว่าความฝันนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทุกอย่างก็กลับ พังทลาย ลอร่าบังเอิญเห็นแฟนหนุ่มจูบกับ ลิซซี่เพื่อนนางแบบของเธอคนหนึ่ง ที่เธอเป็นคน แนะนำให้เขารู้จักเอง ภาพนั้นทำให้เธอกรี๊ดไม่ออก แต่กลับช็อคจนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล กำหนดการหมั้นและแต่งงานถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด มีข่าวลือต่างๆนานา ตั้งแต่ว่าลอร่า ท้องก่อนแต่งจึงหลบไปคลอดลูก แต่ที่เสียดแทงใจเธอมากที่สุดคือ เธออกหักเพราะเจมส์ทิ้งเธอ ไปมีคนใหม่ ลอร่าออกจากโรงพยาบาลด้วยสภาพจิตใจบอบช้ำ เจมส์ตามง้อเธอแต่เธอไม่ยอมพบ เขาเลย ลอร่าย้ายไปอยู่กับแอ๋วชั่วคราวเพื่อไม่ให้ใครตามตัวเจอ เธอไม่เป็นอันทำงานปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวเละเทะผิดนัดจนทุกคนเลิกจ้างแอ๋วคอยปลอบใจลอร่า ลอร่าตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟังว่า ที่แท้เธอเป็นใคร แอ๋วขอให้ลอร่าเปิดเผยตัวตน แต่เจ๊มลไม่ยอมสั่งลอร่าหลบนักข่าวที่มาสัมภาษณ์ นักข่าวเริ่มมีการขุดคุ้ยอดีตของเธอ บอกว่านามสกุลที่เธอใช้อยู่เป็นของปลอม ที่แอบขโมยมาจาก ตระกูลดังแต่เปลี่ยนตัวสะกดนิดหน่อย เพราะเชื่อว่าภาพลักษณ์และประวัติที่สวยหรูจะช่วยกรุย ทางไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายขึ้น แต่นามสกุลจริงของเธอคือ “โคกกระโดน” เจ๊มลถึงกับอยู่นิ่งไม่ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นอุปสรรคในการโกอินเตอร์ของลอร่าอย่างไม่ต้องสงสัย เจ๊มลจึงวางแผนให้ ลอร่ากลับไปกาฬสินธุ์บ้านเกิดของเธอ เพื่อลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวที่แท้จริงให้หมด และ เก็บหลักฐานที่จะนำไปสู่ที่มาของตัวเธอไม่ให้เหลือซาก เพราะกลัวนักข่าวจะตามกลิ่นไปจนเจอ เจ๊มลเป็นคนชักชวนลอร่าหนีออกจากบ้านมาเป็นนางแบบตั้งแต่เธอเพิ่งจบมัธยมปลาย โดยเจ๊มล ช่วยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่หมด แถมแต่งประวัติใหม่ให้อย่างสวยหรู พาไปสมัครเรียนเอยูเอ และด้วยพื้นฐานภาษาอังกฤษที่เธอสนใจอยู่แล้วก็ทำให้ลอร่ามีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เธอสาบาน กับตัวเองไว้ว่าถ้ายังไม่ถึงจุดสูงสุดของความฝันก็จะไม่กลับบ้าน ในที่สุดเธอประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังไม่เคยกลับบ้านอีกเลย เพียงสิ่งเดียวที่ยังทำให้เธอติดต่อทางบ้านก็คือ ส่งเงินให้ ตาพุด กับ นางชื่น ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของเธอ เพื่อให้ทั้งสองอยู่อย่างสุขสบายลึกๆ แล้วเธอคิดถึงทั้งสองมาก และเคยชวนท่านมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้ดูแลใกล้ชิด แต่พ่อแม่เคยมาอยู่เพียงสามสี่ วันก็บ่นคิดถึงควายที่บ้าน แถมเก็บเงินที่เธอส่งมาเข้าธนาคารหมดโดยไม่ยอมใช้สักบาท โดยอ้าง ว่าเงินที่ได้จากการทำไร่ทำนาก็พอเพียงอยู่แล้ว เจ๊มลคาดว่าลอร่าจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ใน การกลับไปจัดการกับทุกอย่างให้เรียบร้อย เพื่อจะตั้งต้นชีวิตใหม่อีกครั้งเป็นนิวลอร่าตามที่เจ๊มล เตรียมการเปิดตัวให้ เมื่อลอร่ากลับบ้านเกิดเธอแต่งหน้าจัดตามความเคยชินทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน จึงไม่มีใครจำเธอได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้จักเธอในฐานะนางแบบ เธอพยายามถามทางกลับบ้านเพราะ ถนนหนทางเปลี่ยนไปมาก แต่ก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะชาวบ้านไม่คุ้นภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง ของเธอ จนกระทั่งเจอกับ ปอยเพื่อนสมัยเรียนที่จำลอร่าได้ ปอยทักเธอว่าคำหล้าซึ่งเป็นชื่อจริง ของเธอสมัยเด็ก ทำให้ลอร่าต้องรีบหลบเพราะทุกคนจำได้และเข้ามามุงเธอ ทั้งสองเคยเป็นคู่แข่ง กันมาก่อน ปอยเรียนเก่งกว่าแต่ลอร่าเป็นคนสวยและทะเยอทะยาน ลอร่าไม่เข้าใจว่าทำไมปอยจบ มหาวิทยาลัยแต่กลับมาเป็นครูสอนเด็กบ้านนอก ในขณะที่ลอร่าจบแค่มัธยมหกแต่ประสบความสำ เร็จเป็นนางแบบชั้นแนวหน้าของเมืองไทย แม้ว่าที่จริงแล้วปอยมีความสุขและพอใจในสิ่งที่ตัวเอง มีอยู่ แถมลอร่ายังเข้าใจว่าปอยเป็นแฟนกับ อินทร์แฟนเก่าสมัยมัธยมของเธอทำให้ลอร่าแอบอิจฉา อยู่ลึกๆ แต่เธอก็พยายามปฏิเสธใจตัวเองเรื่อยมาว่าเธอประสบความสำเร็จ มีเงินทองมากมายกว่า และสวยกว่า ค่าเครื่องสำอางของเธอแต่ละเดือนแพงกว่ารายได้ทั้งปีของปอยเสียอีก เมื่อปอยนำทาง ลอร่าไปถึงบ้านพ่อแม่ ลอร่าก็ถูกควายไล่ขวิดจนล้มลุกคลุกโคลนหมดสวย เพราะสีสันจัดจ้านของ เสื้อผ้าเธอที่ไปสะดุดตามัน จนกระทั่งอินทร์เข้ามาช่วยไว้เพราะบังเอิญเขามาเยี่ยมพ่อแม่เธอที่นั่น อินทร์ได้ทุนไปเรียนเกษตรที่นิวซีแลนด์ เขากลับมาทำไร่ของตัวเองและเป็นครูอาสาสมัครสอน ภาษาอังกฤษในโรงเรียนของหมู่บ้าน แทนที่ลอร่าจะขอบคุณ เธอกลับกรี๊ดใส่เขาที่มาเจอเธอใน สภาพนี้ด้วยความเจ็บใจที่เมื่อสิบปีก่อนเขาทิ้งเธอไปสนิทกับปอย แต่ที่จริงเป็นเพราะตอนนั้นลอร่า เริ่มลืมตัวและไม่สนใจเขาเอง เธอทำทุกอย่างเพื่อจะก้าวไปสู่วงการนางแบบด้วยการประกวดประ ชันบนเวทีต่างๆทำให้อินทร์กลุ้มใจกลัวลอร่าเสียการเรียน จึงปรึกษาปอยซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ลอร่า จนเกิดความสนิทสนมกันลอร่าจึงเข้าใจผิดมาตลอดว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน แม้ลอร่ากลับมา อินทร์ก็ยังมาดูแลพ่อแม่ของเธออย่างสม่ำเสมอ จนถูกลอร่าแดกดันหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเขาก็ตอบ โต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ในขณะที่พ่อแม่เธอเอาแต่ชมเขาว่าช่วยมาดูแลยิ่งกว่าลูกแท้ๆ ยิ่งทำให้ลอร่า รู้สึกเสียดแทงใจมาก ปอยบอกลอร่าว่ากำลังจะแต่งงาน ลอร่าก็ยิ่งเข้าใจผิดคิดว่าคนที่ปอยจะ แต่งงานด้วยคืออินทร์ เธอรู้สึกหึงขึ้นมาเพราะอินทร์คือรักครั้งแรกของเธอคืนแรกลอร่านอนไม่ หลับเพราะรอบตัวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสักอย่าง ที่บ้านไม่มีเครื่องปรับอากาศมีแต่พัดลม เครื่องเก่าๆ ที่พ่อแม่แอบสละให้ลอร่าใช้ โดยไม่บอกว่าที่บ้านมีพัดลมเครื่องเดียว น้ำประปาก็ไม่มี ต้องไปตักน้ำบาดาลมาให้ จะไม่อาบน้ำก็ไม่ได้เพราะตัวเลอะโคลนเต็มไปหมด ลอร่าอยากกรี๊ดไป สิบแปดตลบ พอโทรไปบ่นกับเจ๊มลก็ต้องเดินหาสัญญาณมือถือไปอยู่กลางเล้าหมูแต่คำตอบที่ได้รับ จากเจ๊มลก็คือให้อดทนไว้ก่อน วันรุ่งขึ้นข่าวการกลับมาของลอร่าเริ่มแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน หลายคนเข้ามาแวะเวียน เพื่อจะดูหน้าเธอ ทุกคนในหมู่บ้านจะพูดภาษาอีสานใส่ลอร่า แต่เธอแกล้งทำเป็นฟังไม่ออก จน ชาวบ้านแกล้งนินทาเป็นภาษาอีสาน บักหล่อซึ่งเป็นลูกน้องของอินทร์ตั้งสมญาให้ลอร่าว่า “บักสีดา” เพราะลอร่าชอบทำตัวเป็นฝรั่ง ที่จริงลอร่าฟังรู้เรื่อง แต่ทำเป็นเก๊กสวยแม้จะหลุดความ เปิ่นตามนิสัยเดิมออกไปบ้าง จนเป็นที่ตลกขบขันของคนในหมู่บ้าน ถ้าลอร่าไม่พูดภาษาอีสาน ชาวบ้านก็จะไม่ยอมขายของให้ เธอจึงแกล้งใช้ปอยเป็นล่ามให้ทุกครั้ง ซึ่งปอยก็แสนดีคอยช่วย เหลือทุกอย่างด้วยความเห็นใจเพื่อน ในขณะที่ลอร่าจะแอบเจ็บใจที่ปอยเฝ้าพร่ำพูดถึงแต่แฟน ตัวเองที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษและงานแต่งงานที่จะมีขึ้นอย่างตื่นเต้น จึงมักจะเปลี่ยนเรื่องคุย กะทันหันทุกครั้งที่ปอยเริ่มพูด ลอร่าตอบแทนปอยโดยแต่งหน้าให้ปอยแบบเว่อร์ๆ เหมือนตัวเอง จนปอยไม่มั่นใจและต้องแอบไปลบทิ้ง ลอร่าจะหาเรื่องคอยแกล้งอินทร์อยู่เสมอ พออินทร์มาช่วย พ่อแม่ของเธอทำส้มตำปลาร้าของที่เธอเคยชอบให้ เธอก็แผลงฤทธิ์ใส่เขาโดยการเททิ้ง ไม่ยอมกิน แกล้งว่าสกปรก อินทร์แก้เผ็ดด้วยการใส่ปลาร้าลงในกับข้าวทุกอย่างจนลอร่ากินไม่ได้ แต่ตกดึก เธอหิวมาก จึงแอบมาจกปลาร้าที่เหลือไปคลุกข้าวด้วยความหิวโหยอินทร์มาแอบดูและขำอยู่ คนเดียว ปอยพาลอร่าไปเยี่ยมโรงเรียนที่สอนอยู่และชวนลอร่ามาสอนภาษาอังกฤษบ้าง แต่พอ ลอร่าเจออินทร์ที่มาช่วยสอนภาษาอังกฤษอยู่เหมือนกัน เธอก็ปฏิเสธทันที แถมเธอยังเจอฤทธิ์ เดชของ ไอ้ต่อย หรือที่อินทร์เรียกว่า “บักหำต่อย” ซึ่งเป็นนักเรียนหัวโจกของโรงเรียนแกล้ง หลอกให้เธอกินกิ้งก่าปิ้งโดยตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ให้ลอร่ารู้ว่าเป็นอะไร ตอนแรกลอร่ากินอย่าง เอร็ดอร่อยเพราะตอนเด็กๆ เธอก็เคยกิน แต่พออินทร์มาเฉลยว่าเป็นอะไรลอร่าก็รีบไปอาเจียน แทบไม่ทัน ปอยพาลอร่าไปที่อำเภอเพื่อเปลี่ยนหลักฐานเดิมเกี่ยวกับตัวลอร่า ทำให้ได้พบกับ ปลัดดอนซึ่งปลื้มลอร่าในฐานะนางแบบในดวงใจมาก่อน เขาจึงช่วยประสานงานให้เธออย่างเต็มที่ และชวนเธอไปเดินตลาดด้วยกัน ลอร่าไม่อยากไปแต่พอเห็นอินทร์ที่มาติดต่องานในอำเภอก็แกล้ง ประชดรับปากไปหวังจะให้อินทร์หึง คนทั้งหมู่บ้านจึงเมาท์กันปากต่อปากว่า ปลัดดอนกำลังจะ โกอินเตอร์กับบักสีดาด้วย อินทร์ได้ยินเข้าก็กลับหัวเราะว่าลอร่าหลอกปลัดมากกว่าลอร่าทำธุระ เสร็จเร็วกว่าที่คิด และโล่งใจที่เธอจะได้กลับกรุงเทพก่อนงานแต่งงานของปอยและอินทร์ เธอทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นภาพบาดตานั้น แต่เจ๊มลผู้จัดการส่วนตัวโทรมาบอกว่าเธอยังกลับไม่ได้ ต้องเก็บตัวอีกระยะหนึ่ง เพราะนักข่าวรออยู่ที่อพาร์ตเมนท์เพื่อจะเปิดโปงเธอ ลอร่าจำใจต้องอยู่ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ในที่สุดเธอตัดสินใจว่าในเมื่อจะต้องอยู่ต่อ เธอก็จะเปลี่ยนหมู่บ้านเชย ๆ นี้ให้กิ๊บเก๋มีสไตล์มากขึ้น ด้วยการเป็นผู้นำความทันสมัยเข้ามา ไม่อย่างนั้นเธอก็ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ และยังสั่งให้เจ๊มลส่งชุดราตรีสุดหรูสำหรับงานแต่งงานมาให้ด้วยลอร่าเริ่มจากการตกแต่ง บ้านของเธอใหม่ให้เป็นแบบอเมริกันสมัยใหม่ และสั่งเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เช่น แอร์ เครื่องซักผ้าไมโครเวฟ ฯลฯ มาใช้ในบ้าน โดยความช่วยเหลือของปลัดดอนปรากฏว่า คืนแรกที่ ลอร่าโหมกระหน่ำใช้สารพัดสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไฟตก ทั้งหมู่บ้านไฟดับหมด จนผู้ใหญ่ บุญโฮมต้องมาขอร้องให้เพลาการใช้ไฟลงบ้าง แต่ลอร่าไม่ยอม โวยวายว่าเป็นสิทธิ์ของเธอ ผู้ใหญ่บ้านต้องทำให้หมู่บ้านเจริญขึ้นโดยขอไฟเพิ่ม ไม่ใช่มาขอให้เธอ ลดการใช้ไฟเพราะเธอมีเงินจ่าย ผู้ใหญ่บุญโฮมเป็นผู้ที่บวชเรียนมาหลายพรรษา จึงพูดคำคมฝาก เป็นข้อคิดให้ลอร่าว่า “ติแต่แมงวันฮ้ายตอมโตอยู่โผ้โผ่โตหากเหม็นอู่อู้สิติได้ฮ่อมใด” (ว่าแต่แมลงวันมาบินตอมรบกวนตน ตัวเองมีกลิ่นเหม็น จะไปว่าแมลงวันได้อย่างไร) ลอร่าแกล้งทำเฉยฟังไม่รู้เรื่อง แต่ที่แท้เข้าใจลึกซึ้งวันรุ่งขึ้นลอร่าสั่งติดตั้งมิเตอร์ใหม่ที่ทำ ให้บ้าน ของเธอใช้ไฟได้เต็มที่ ยิ่งทำให้ไฟบ้านอื่นติดๆดับๆ นอกจากนี้ลอร่ายังสั่งให้คนขุดสระว่ายน้ำ ส่วนตัวหน้าบ้าน โดยอ้างว่าเธอต้องออกกำลังเพื่อรักษาหุ่น ปลัดดอนช่วยดึงน้ำที่ชาวบ้าน เก็บไว้ใช้ในการเกษตรมาเติมน้ำให้ แม้อินทร์จะพยายามเตือนว่าการอยู่ในหมู่บ้านที่ ยังขาด แคลนอยู่ต้องมีการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน แต่ปลัดดอนก็ไม่ฟัง เถียงว่าลอร่ามีสิทธิ์จะทำอะไร ที่ไม่ผิดกฎหมายและยังช่วยให้คนในหมู่บ้านศิวิไลซ์ขึ้น ปรากฏว่าไอ้ทุยได้ลงไปใช้น้ำในสระ เป็นตัวแรก ลอร่าตื่นขึ้นมาเห็นมันแช่น้ำในสระอย่างสบายอารมณ์ก็สั่งเปลี่ยนน้ำใหม่ทันทีลอร่าเอา แต่แต่งหน้าจัดเดิน เฉิดฉายกรีดกรายในหมู่บ้านเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์กและแต่งตัว ตามความเคยชิน จนผู้คนในหมู่บ้านหมั่นไส้เด็กๆหัวเราะเธอเหมือนเห็นตัวประหลาด สาว ๆ จะแอบค้อน ส่วนหนุ่มๆมองเธอด้วยสายตาโลมเลีย แต่ลอร่าไม่สนใจ เธอคิดว่าความสวยมั่นใจจะ เอาชนะทุกสิ่งได้ ประภา ลูกสาว เถ้าแก่ย้งขายข้าวสารในตลาดซึ่งเมื่อก่อนเป็นดาวในหมู่บ้าน ยังต้องตกอันดับไป ประภาจึงมักจะแกล้งลอร่าทุกครั้งที่มีโอกาสอินทร์เตือนลอร่าด้วยความหวังดี ว่าตอนนี้ชาวบ้านมองเธออย่างไร แต่เธอกลับคิดว่าเขาหาเรื่องแถมชวนทะเลาะจนเดินตกสรน้ำ ของตัวเอง อินทร์ต้องลงไปช่วยขึ้นมาแต่ลอร่ากลับโมโหใส่เขา หาว่าเขาไม่เตือนเธอเมื่อถึงวันแต่ง งานของปอยซึ่งลอร่าแต่งชุดราตรีเซ็กซี่มากกะว่างานนี้เธอต้องสวยที่สุดในงาน ส่วนปอยและ อินทร์ออกไปเตรียมงานแต่เช้า พอขบวนขันหมากมาถึงลอร่ารีบเข้าไปหาอินทร์เพื่อกั้นประตู แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจที่เจ้าบ่าวไม่ใช่อินทร์ แต่เป็น เคน ครูหนุ่มที่สอนภาษาอังกฤษอยู่ต่างโรงเรียน อินทร์เป็นแค่เพื่อนเจ้าบ่าว ลอร่าถึงกับหน้าแตกยับเยินเธอต่อว่าอินทร์ที่ปล่อยให้เข้าใจผิดอยู่นาน อินทร์บอกว่าพอจะบอกทีไรเธอก็รีบเปลี่ยนเรื่องทุกที เมื่อพิธีกรประกาศขอให้คนขึ้นไปร้องเพลง บนเวทีลอร่าอาสาขึ้นไปร้องเพลงของบริทนีย์จึงถูกคนโห่ไล่ ลอร่ารีบลงจากเวทีทั้งที่ยังไม่จบเพลง ด้วยความรู้สึกอับอายเป็นครั้งแรก ในขณะที่ปอยขึ้นไปร้องหมอลำกลับได้รับเสียงตบมือ และชื่นชม เหมือนกับว่าอดีตที่เธอต้องพ่ายแพ้ปอยนั้นกลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง ลอร่าจึงหนีกลับบ้านก่อนด้วยความเจ็บช้ำใจ แม้อินทร์จะเตือนลอร่าว่าไม่ควรกลับคนเดียว แต่ เธอก็ดื้อดึงด้วยความน้อยใจระหว่างทางกลับบ้าน ลอร่าถูกแก๊งไอ้เจิด อันธพาล ประจำหมู่บ้าน โรยตะปูเจาะยางและฉุดเข้าป่าเพราะหมั่นไส้มานานแล้ว อินทร์ขับรถตามมาช่วยจนได้รับบาดเจ็บ แต่พวกไอ้เจิดจำอินทร์ได้จึงไม่กล้าทำอะไรมาก ลอร่ารีบพาเขาไปส่งโรงพยาบาลนั่งเฝ้าเขาทั้งคืน ด้วยความเป็นห่วงและช่วยดูแลเขา โดยอ้างว่าตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยเธอไว้ ปลัดดอน ช่วยลอร่าสืบหาตัวคนที่จะฉุดเธอและคอยตามรับตามส่งเธอทุกวัน ทำให้อินทร์เริ่มหึงขึ้นมา เหมือนกัน จึงอยากให้ลอร่าอยู่ห่างจากปลัดดอนบ้าง โดยขอให้เธอไปช่วยสอนภาษาอังกฤษ เด็กแทนเขา ในขณะที่เขารักษาตัวอยู่ลอร่ารับปาก เพราะนึกถึงความสุข ที่ได้เรียนวิชาภาษา อังกฤษในตอนเด็ก แต่ชั่วโมงแรกที่เธอไปสอนเด็กก็ถูกเด็กโห่ไล่ด้วยความรังเกียจ เพราะ ทุกคนรู้กิตติศัพท์ของเธอ แถมบักต่อยก็ยังชวนเพื่อนหนีไปจับกิ้งก่า ลอร่าไม่ยอมแพ้ วิ่งตามไปจับบักต่อยกลับมาเรียน แต่หกล้มจนส้นสูงหักขาแพลง ลอร่าถึงกับหมดกำลังใจ ปอยปลอบใจให้ลอร่าเข้มแข็ง และเข้าไปคอยคุมให้นักเรียนอยู่ในความสงบ ปอยเอา เรื่องนี้ไปปรึกษาอินทร์ วันต่อมาเขาจึงฝากจดหมายให้ปอยอ่านต่อหน้าเด็กๆ ว่าลอร่าจะ มาเป็นครูแทนเขาเป็นการช่วยเหลือเขาและนักเรียน ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนและขอร้องให้ บักหำต่อยช่วยนำเพื่อนๆกลับเข้าห้อง เด็กๆจึงเริ่มยอมเรียนกับลอร่า ลอร่าแปลกใจที่อินทร์ มีอิทธิพลต่อเด็กถึงเพียงนี้ อินทร์คอยแนะนำลอร่าว่าควรสอนอะไรเด็กๆบ้าง ตอนแรกเด็กๆ เรียนอย่างจำใจ แต่ด้วยลูกล่อลูกชนของลอร่าที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง และความช่าง พูดช่างสรรหาเรื่องมาเล่าทำให้เด็กๆ เริ่มประทับใจในตัวครูคนใหม่ขึ้นมาทีละน้อย เธอจะ ไปที่โรงพยาบาลเยี่ยมอินทร์ และเล่าเรื่องการสอนของเธอให้เขาฟังทุกวัน บางครั้งเขาก็จะแนะนำ เธอมาบ้างเมื่อเธอมีปัญหา ทำให้การสอนของเธอมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความดีของลอร่าเริ่ม แพร่สะพัดไปถึงหูพ่อแม่ของเด็กในหมู่บ้าน ลอร่าให้เด็กแต่ละคนแต่งเรียงความภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาขึ้นมา จึงรู้ว่าหลายคนเดือดร้อนจากการกระทำของเธอมาก เช่น หมู่บ้าน กันดารและแห้งแล้ง น้ำไม่พอใช้ตอนกลางคืนไฟติดๆดับๆ ทำให้เด็กไม่ได้อ่านหนังสือ หรือทำการบ้าน และสิ่งที่ทำให้ลอร่าแปลกใจคือเด็กๆหลายคนยังไม่เคยเห็นกรุงเทพฯ บักต่อยกับเด็กนักเรียนมักจะจับเขียดจับกิ้งก่าตามท้องนามาปิ้งกิน และชวนลอร่ากินด้วย ลอร่าทำเป็นไม่ยอมกิน แต่ลับหลังแอบกินเขียดย่างอย่างเอร็ดอร่อย จนบักต่อยมาเห็นเข้า ลอร่าจึงให้เงินจ้างบักต่อยว่าอย่าบอกใคร บักต่อยรับปาก แต่ก็แอบไปเล่าเป็นนัยๆ ให้ครูอินทร์ฟังเวลาไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล จนอินทร์แอบขำเวลาเห็นหน้าลอร่า ทำให้ลอร่าเริ่มรู้สึก ไม่มั่นใจคิดว่าหน้าตัวเองมีรอยเลอะเปื้อนอะไรในวันที่อินทร์ออกจากโรงพยาบาล ลอร่าไปรับเขา ระหว่างที่นั่งรถกลับ เธอเล่าเรื่องความน่ารักของเด็กๆที่โรงเรียนให้ฟัง จนคุยถึงเรื่องสมัย เรียนของตัวเอง ตอนที่ลอร่ายังเป็นเด็กนักเรียนตัวดำร้องไห้ขี้มูกโป่งและเจ้าแง่แสนงอนเป็นที่สุด แต่เธอก็มีพรสวรรค์ในการแสดงออกและเก่งภาษาอังกฤษ ทั้งสองคุยกันจนกระทั่งรถแล่นผ่าน ป่าริมน้ำในหมู่บ้าน ลอร่าชวนอินทร์แวะลงที่นั่น ทั้งสองเดินไปที่ลานกลางป่าด้วยกัน ซึ่งอินทร์ เคยแอบเอาเสื้อสวย ๆ ของแม่มาให้ลอร่าใส่เดินแบบให้เขาดู นั่นเป็นการเดินแบบครั้งแรก ในชีวิตของเธอ การที่เธอกับเขาแข่งกันวิ่งข้ามเขาไปโรงเรียนทุกวัน และครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ทุ่มเทจนทำให้เธอรักวิชานี้ อินทร์และลอร่ารำลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานประทับใจ และเริ่มตระหนักว่ารักครั้งแรกยังไม่หายไปไหน แต่มันถูกซ่อนอยู่ในซอกหลืบ ของความทรงจำที่เขาและเธอไม่เคยลืม คราวนี้ลอร่าเผลอพูดภาษาอีสานออกมาอย่างชัดเจน หลังจากจู่ ๆ ก็เลิกพูดไปเมื่อตอนอายุสิบสี่ และหลีกเลี่ยงไม่ยอมพูดอีกเลย เพราะถูกเจ๊มลห้ามไว้ ลอร่าได้คิดว่าทุกสิ่งในหมู่บ้านนี้เองที่หล่อหลอมตัวตนของเธอขึ้นมา แต่เธอกลับวิ่งหนีตัวเองตาม คำสั่งของคนอื่น ซึ่งไม่มีวันที่จะหนีพ้นอินทร์กลับมาสอนเด็กๆ ตามเดิมแต่เด็ก ๆ ก็เรียกร้องครูลอร่า เขาจึงให้เธอสลับมาสอนกับเขา บักต่อยดูออกว่าครูอินทร์กับครูลอร่ามีใจให้กัน จึงมักจะเป็นพ่อสื่อให้ทั้งสองอยู่เสมอ ลอร่ามีความสุขและรู้สึกว่าได้ทำตัว เป็นประโยชน์ มากกว่าที่ผ่านมา เธอเข้าใจถึงความขาดแคลนของเด็ก จึงเลิกใช้เครื่องสำอางและของมียี่ห้อ แล้วเอาเงินพวกนี้มาซื้ออุปกรณ์การเรียนให้พวกเด็กๆ บริจาคเงินปรับปรุงโรงเรียนและซื้อ คอมพิวเตอร์มาให้ เด็กนักเรียนตื่นเต้นกันมาก และลอร่ายังสอนให้เด็กๆทำของที่ระลึก จากวัสดุการเกษตรที่เหลือใช้ออกขายหารายได้ โดยใช้ความรู้ด้านแฟชั่นที่เธอมีอยู่ ซึ่งขายดีมาก ข่าวคราวไปถึงหูชาวบ้าน จึงมีคนมาเรียนการประดิษฐ์ของที่ระลึกจากเธอมากมาย จนกลายเป็น สินค้าโอท็อป ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชาวบ้านดีขึ้น และระหว่างทางความรักของเธอ กับอินทร์ก็เริ่มงอกงามขึ้นอีกครั้งเช่นกัน การที่ลอร่าทุ่มเทให้กับโรงเรียน ทำให้เธอมักจะอยู่จน ถึงดึกทางกลับบ้านค่อนข้างอันตรายและเปลี่ยว อินทร์จึงอาสาขับรถพาเธอไปส่งที่บ้านหลัง เลิกเรียน โดยแอบพาลอร่าหนีปลัดดอนที่มาดักรอหน้าโรงเรียนทุกวัน ซึ่งหลายครั้งก็มีบักต่อย ช่วยกันปลัดดอนให้ด้วยวันหนึ่งเมื่ออินทร์พาลอร่ากลับบ้านก็พบว่านักข่าวมารอทำข่าวเธออยู่ ลอร่าสงสัยนักข่าวรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่ เธอพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ๊มลแต่ติด ต่อไม่ได้จึงรู้จากแอ๋วว่าที่แท้เจ๊มลทรยศเธอขายข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ชื่อดัง และเตรียมปั้น นางแบบหน้าใหม่ขึ้นมาแทนที่เธอ เพราะแค้นลอร่ามานานแล้วที่ดังแล้วลืมตัวแต่แล้ว ลอร่าก็สืบรู้ ว่าเจ๊มลแอบโกงเงินเธอโดยชักเปอร์เซ็นต์ค่าตัวมากเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ จึงหาเรื่องจะทิ้งลอร่า และคิดว่าลอร่าคงกลับมาดังไม่ได้แล้ว ลอร่าเสียใจมากนักข่าวตามไปถ่ายรูปบ้านและพ่อแม่ ที่แท้จริงของลอร่า อินทร์ช่วยพาเธอหนีนักข่าว ลอร่าขอร้องให้อินทร์ช่วยเธอโกหก ว่าเธอ แค่มาเที่ยว แต่เขาบอกว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง แต่ลอร่าไม่ยอม เพราะประวัติอันสวยหรูและชื่อเสียงที่เธอสร้างมาทั้งหมดจะพังทลาย จนเป็นอุปสรรค ในการโกอินเตอร์ของเธอ ลอร่าจึงต้องหลบนักข่าวไปพักที่ไร่ของอินทร์ชั่วคราวอินทร์พาลอร่า ชมไร่ของเขา เธอจำได้ว่าเขาเคยฝันอยากมีไร่เป็นของตัวเองและเขาก็ทำได้ ลอร่ารู้สึกผ่อน คลายเป็นครั้งแรก ตั้งแต่กลับมาบ้านเกิด เธอมีความสุขและประทับใจกับชีวิตเรียบง่าย ในไร่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเสียงเพลงหมอลำที่คนงานในไร่เปิดคลอ ไปด้วยขณะทำงานนั้นช่างเข้ากับบรรยากาศเหลือเกิน จนต้องแอบร้องคลอไปด้วยอย่างไม่รู้ตัวพอ อินทร์ถามเธอว่าอยากกินอะไร เธอก็นึกถึงอาหารอีสานขึ้นมาทันที จึงช่วยอินทร์ทำกับข้าวอีสาน กินกันอย่างสนุกสนาน แต่ลอร่าก็ไม่วายลืมตัวร้องหาเครื่องปั่นพริกแทนที่จะตำน้ำพริก อย่างชาวบ้าน อินทร์จึงต้องไปเอาบักหล่อกับลำไยแฟนสาวของบักหล่อมาเป็นลูกมือเพราะกลัว จะไม่ได้กินคืนนั้นลอร่าเผลอหลับไป และตื่นขึ้นมาโดยไม่ได้แต่งหน้าเป็นครั้งแรก เพราะไม่ได้เตรียมเครื่องสำอางมาด้วย เธออายมากเมื่ออินทร์เข้ามาเห็นเธอในห้อง แต่เขากลับ ชมเธอว่าเหมือนเธอกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เธอจึงคิดทบทวนถึงความสุขในวัยเด็ก ที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน แท้จริงแล้วเธอไม่ได้ลำบากไปกว่าเด็กคนอื่นในหมู่บ้านตอนนั้น หลายคนในหมู่บ้านก็ดีกับครอบครัวเธอ แต่เพราะความทะเยอทะยานทำให้เธอคิดว่าตัวเอง ลำบากที่สุด ในขณะที่ชีวิตเรียบง่ายอย่างปอยกับอินทร์ทำให้เธอแอบอิจฉามาตลอด ยิ่งตอนนี้ ปอยเริ่มท้องแล้ว เคนเอาใจปอยมากเป็นภาพครอบครัวอบอุ่นที่ลอร่าประทับใจมาก ซึ่งเธอ ยังนึกไม่ออกว่าเจมส์จะเป็นแบบเคนได้อย่างไร บักหล่อเอาเรื่องของลอร่ากับอินทร์ไปกระจายทั่วหมู่บ้าน ปลัดดอนซึ่งคิดว่าลอร่ากลับกรุง เทพฯไปแล้วก็รีบมาตามเธอด้วยความคิดถึง และต่อว่าอินทร์ที่หลอกลอร่ามา ลอร่าต้องอธิบายว่า เธอยินยอมมาเอง ปลัดดอนถึงกับอกหักคิดว่าอินทร์กับลอร่าผิดผีกันแล้วเจมส์อ่านข่าวพบเรื่องของ ลอร่า เขาจึงเดินทางมาที่กาฬสินธุ์เข้ามาช่วยจัดการเอาเงินปิดปากนักข่าวและมาหาลอร่kเพื่อบอก ข่าวดีและขอคืนดีกับเธอ เขาบอกว่าตามหาเธอมานาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นเป็นเพราะลิซซี่มา แสดงความยินดีกับเขาตามธรรมเนียมฝรั่งโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว เขาเสนอลอร่าว่าควรรีบกลับกรุง เทพฯ เพื่อถ่ายแบบเครื่องสำอางที่จะออกวางตลาดรับฤดูกาลใหม่ เขาจะส่งเสริมให้เธอก้าวสู่ระดับ อินเตอร์อย่างที่เธอใฝ่ฝันไว้ พร้อมกับนำเครื่องสำอางของเขาไปสู่ตลาดโลกด้วย เพราะเธอคือนาง แบบที่มีศักยภาพที่สุดในการพาเครื่องสำอางของเขาก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์ ภาพความฝันของ ลอร่ากลับมาแจ่มชัดขึ้นอีกครั้งลอร่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องเจมส์ และคิดไม่ตกเกี่ยวกับอนาคต ทำให้เธอขาดสอนไปหลายวัน ปอยมาตามเธอกลับไป แต่พอลอร่าไปถึงโรงเรียนก็เห็นอินทร์ สนิทสนมกับประภาอย่างออกนอกหน้า ขณะที่เขาสอนงานให้โดยไม่สนใจเธอ ลอร่ารู้สึกหึง และน้อยใจจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ พร้อมเจมส์ แต่ที่จริงอินทร์กำลังยุ่งมากจากการที่โรงเรียน อาจจะถูกปิด เพราะมีครูไม่พอโดยจะเอานักเรียนไปรวมกับอีกหมู่บ้านหนึ่ง เขาจึงต้องใช้เงินตัว เองจ้างประภามาเป็นครูพิเศษเพราะประภาจบปริญญาตรีครุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่ง หนึ่งขณะที่ลอร่ากำลังจะขึ้นรถเจมส์กลับกรุงเทพนั้น อินทร์กับปอยตามมาทัน ปอยต่อว่าลอร่า ที่จะทิ้งพวกเขาไป อินทร์ทวงสัญญาที่ลอร่าจะร่วมกันทำโรงเรียนในหมู่บ้านให้ทันสมัย ลอร่า บอกว่าเธอจะส่งเงินมาให้ แต่ตัวเธอต้องทำตามความฝันต่อไป อินทร์ย้อนถามว่านั่นคือฝันที่แท้จริง หรือลอร่าอึ้งไป เธอชวนอินทร์ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะเธอรู้จักบริษัทหลายแห่งที่รับเขาเข้า ทำงานได้ ซึ่งความรู้อย่างเขาต้องได้เงินเดือนที่สูงลิ่ว แต่อินทร์ปฏิเสธ เขาบอกว่าความฝันของเขา อยู่ที่นี่ แต่ของเธอนั้นยังหาไม่พบ เพราะสิ่งที่เธอทำมาตลอดเวลานั้นคือการวิ่งหนีตัวเอง เพื่อทำตาม ค่านิยมของสังคม โดยไม่เคยหันกลับมามองว่าที่แท้ตัวเองต้องการอะไรลอร่ากลับกรุงเทพฯ แต่รู้สึก คิดถึงกาฬสินธุ์ขึ้นมาจับใจ แสงสีที่สวยงามกลับทำให้เธอรู้สึกต่างไปจากเดิม เธอเหงาและโดดเดี่ยว เหมือนขาดอะไรไป ทั้งที่ได้ทุกอย่างกลับคืนมาและกำลังจะก้าวไปสู่ความฝันอันสูงสุดของตัวเอง แล้วเจมส์ขอหมั้นลอร่าและประกาศจัดงานหมั้นใหญ่โตลงหนังสือพิมพ์ แถมจ้างพ่อแม่กำมะลอมา แทนพ่อแม่ที่แท้จริงของลอร่า อินทร์และพ่อแม่ของลอร่าอ่านข่าวอย่างชอกช้ำใจ ลอร่าเห็นข่าวก็ต่อ ว่าเจมส์ที่ไม่ปรึกษาเธอเสียก่อน ทั้งสองทะเลาะกัน ลอร่าจึงรู้ว่าที่เจมส์ต้องการแต่งกับเธอก็เพราะ ทุกคนเชียร์ถึงความเหมาะสม แต่เขาไม่เคยเข้าถึงจิตใจและตัวตนที่แท้จริงของเธอแม้แต่น้อยเขา พยายามสร้างภาพของเธอให้เป็นไปตามแบบที่เขาต้องการเหมือนที่เจ๊มลเคยทำกับเธอทุกครั้ง ที่คุยกัน เขาก็จะพูดถึงแต่ธุรกิจที่จะร่วมกันผลักดันไปสู่ความสำเร็จแต่ไม่เคยพูดถึงครอบครัวที่จะ ร่วมกัน สร้างขึ้นมาในขณะเดียวกัน เด็กนักเรียนก็ถามอินทร์ถึงครูลอร่า อยากให้กลับมาสอนอีก เพราะครูลอร่าสอนสนุก อินทร์จึงบอกให้พวกเขาเขียนจดหมายไปหาเธอ ลอร่าได้รับจดหมาย จากเด็กนักเรียนที่เธอเคยไปสอนภาษาอังกฤษ บอกว่าคิดถึงครูลอร่ามากเธอถึงกับน้ำตาซึมและ คิดถึงบ้านขึ้นมาจับใจ จึงส่งจดหมายเชิญพวกเด็กๆ มาเที่ยวกรุงเทพฯโดยเธอออกค่าใช้จ่ายให้ทั้ง หมดในวันแถลงข่าวใหญ่ของการนำเครื่องสำอางออกวางตลาดโลก ลอร่าเดินแฟชั่นโชว์ที่เลิศหรู อลังการที่สุดในชีวิต นักข่าวจากต่างประเทศนับร้อยมาทำข่าว อินทร์และปอยพาเด็กนักเรียนมาฟัง ด้วยเมื่อมีการเปิดโอกาสให้นักข่าวซักถาม บักต่อยยกมือถามลอร่าว่าครูจะกลับไปกินเขียดย่างกับ เขาอีกเมื่อไร เมื่อนั้นลอร่าจึงรู้หัวใจตัวเองว่านั่นเป็นสิ่งที่เธอคิดอยู่ตลอดเวลา เธอสารภาพเป็น ภาษาอีสานต่อหน้านักข่าวว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร ตอนแรกนักข่าวตกตะลึงทุกคนตกอยู่ ในบรรยากาศตึงเครียด แต่แล้วปอยร้องหมอลำขึ้นมาเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้สนุกสนาน ปรากฏว่านักข่าวชอบใจมาก เจมส์โมโหที่คอนเซ็ปต์งานเขาพังหมด จึงประกาศเปลี่ยนตัวนาง แบบกะทันหัน แต่ลอร่าก็ไม่แคร์ เธอคิดว่าความสำเร็จสูงสุดเกิดจากการรู้จักรากเหง้าที่แท้จริง ของตัวเองลอร่ายังคงเดินแบบเพราะมันเป็นอาชีพที่เธอรักและทำได้อีกไม่นาน แต่ก็จะหาเวลากลับ ไปสอนเด็กอยู่เสมอ