เรื่องย่อกู้ภัยอาสารัก
เมื่อซุปตาร์หนุ่มผู้เห็นแก่ตัวเป็นที่สุด ต้องมาโดนคำสาปให้เป็นหน่วยกู้ภัยจนกว่าเขาจะรู้จัก “ความรัก” แต่เขาจะรู้จักคำว่า “รัก” ได้จริง ๆ เหรอ เมื่อต้องมาอยู่กับคู่กัดสาวจอมห้าวที่เรียกได้ว่า “เกลียด” จนแทบจะมองหน้ากันไม่ติด
“ มือเท้าก็ดี...ทำไมทำตัวเป็นขอทาน ” คำพูดเย็นชาแบบไร้ความรู้สึกดังออกมาจากปากของ แรงกล้า...ดาราหนุ่มที่กำลังมาแรงจากผลงานและชื่อเสียง แรงแค่ไหนก็คิดดูว่าเขาเข้าวงการมาเพียงไม่กี่ปี สามารถมีทุกอย่างอย่างที่อยากได้ แถมงานอดิเรกของเขาคือการสะสมเงินกับเหล่าสาวๆไฮโซ คำพูดของแรงกล้าทำเอา ชูใจ...เจ้าหน้าที่สาวจากมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ถึงกับอ้าปากค้าง เธอเสียเวลาครึ่งค่อนวันนั่งรออยู่หน้าห้องแถลงข่าว เพื่อเป็นตัวแทนของมูลนิธิมาถ่ายรูปและรับเงินบริจาคจากแรงกล้าที่บอกว่าจะบริจาคเป็นรถพยาบาลให้กับมูลนิธิ ชูใจพยายามทั้งแคะทั้งเคาะขี้หู คิดว่าหูแว่วที่โดนแรงกล้าด่า เพราะภาพลักษณ์ของแรงกล้าที่เธอรู้และคนทั้งประเทศรู้และเห็นก็คือ ชายหนุ่มสุดเพอร์เฟคที่ใจบุญสุนทาน ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากหากมีโอกาส แถมเธอยังเคยเห็นว่าแรงกล้าเองก็ทำตัวเป็นอาสาสมัครด้วยในบางครั้ง
แต่แล้วแรงกล้าก็แววตาอ่อนโยนและรู้สึกผิดขึ้นมา ทำให้ชูใจโล่งอกว่าแรงกล้าคงจะล้อเล่น แต่ที่ไหนได้ แรงกล้าบอกว่า สิ่งที่ชูใจอยากเห็นคืออยากให้เขาแอคติ้งแบบนี้ใช่มั้ย สิ่งที่ชูใจรวมถึงคนทั้งประเทศเห็นว่าเขาเป็นคนดีนั่นคือการสร้างภาพ !!! ชูใจอึ้งเพราะไม่คิดว่าดาราที่เธอสุดปลื้มนั้น นิสัยที่แท้จริงของเขาคือ เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ทำทุกอย่างได้ถ้าจะทำให้เขาได้ผลประโยชน์ ชูใจยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็โดนแรงกล้าโยนแบงก์ยี่สิบใส่ บอกว่านี่คือเงินทำบุญที่ชูใจอยากได้ นั่นเองจึงเป็นชนวนแห่งความขัดแย้ง เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย ชูใจสาปส่งหรือจะเรียกว่าแช่งก็ได้ จนแรงกล้าเองต้องเรียกรปภ.หามชูใจออกไป
แรงกล้าผู้ยึดตัวเองเป็นศูนย์รวมจักรวาล ด้วยความที่เขาเป็นเด็กกำพร้า เพราะฉะนั้นเขาจึงพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองรอด แม้ว่าจะต้องขายเพื่อนหรือขายจิตวิญญาณก็ตาม หลังจากที่เขาได้ผ่านชีวิตความลำบากจนพลิกผันเข้ามาเป็นดารา ทำให้เขารู้ว่า “เงิน” คือสิ่งที่สำคัญที่สุด แรงกล้าจึงไม่สนคำแช่งของชูใจ สิ่งที่เขาสนใจคงมีแต่เงิน เงิน แล้วก็เงิน แรงกล้าเพียบพร้อมไปด้วยความสุขสบาย และที่สำคัญตอนนี้เขากำลังจะสร้างครอบครัวกับ แคท...สาวไฮโซ ลูกสาวสุดรักสุดหวงของ เสี่ยบารมี...หนึ่งในแปดตระกูลผู้กุมเศรษฐกิจของประเทศนี้ไว้ ถ้าเขาได้แต่งงานกับแคท เขาคงไม่ได้รวยธรรมดา แต่คงเรียกว่ารวยล้นฟ้า เพราะเขาจะกลาย เป็นผู้สืบต่อธุรกิจของเสี่ยบารมีไปโดยปริยาย แล้วนั่นจึงทำให้เขาคิดจะขอแคทแต่งงานในงานวันเกิดของเสี่ยบารมีคืนนี้ ซึ่งถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิประจำตระกูล
ตัดกลับมาที่ชูใจ นางเอกของเราที่กำลังโดนรปภ.หามลงจากตึกตามคำสั่งของแรงกล้า แต่แล้วระหว่างนั้น ป้าแม่บ้านท้องแก่ที่กำลังทำงาน อยู่ๆก็เหมือนเธอจะคลอดก่อนกำหนดซะงั้น ชูใจรีบสะบัดรปภ.ออกเพื่อที่จะช่วยพาแม่บ้านท้องแก่คนนั้นไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ชูใจจะพาป้าแม่บ้านลงลิฟต์ แต่แล้วกลับโดนแรงกล้าตัดหน้าเข้าไปในลิฟต์ก่อน ไม่เท่านั้น แรงกล้ายังกดปิดลิฟต์เพราะต้องใช้ลิฟต์เป็นห้องแต่งตัวเพื่อรีบไปงานของเสี่ยบารมี ชูใจแทบอยากจะกระโดดงับคอแรงกล้าซะให้ได้ ถ้าไม่ติดว่าต้องช่วยทำคลอดก่อนล่ะก็
แล้วแรงกล้าก็มาปรากฏตัวที่งานวันเกิดของเสี่ยบารมีอย่างทันเวลา ซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยบารมีกำลังนำเทวรูปเทพเจ้าจีนที่เคารพมาทำพิธีที่มูลนิธิเพื่อความเป็นมงคลในวันเกิด โดยมีคณะของหน่วยกู้ภัยคอยอวยพรให้ด้วย ขณะที่ชูใจกลับมาที่มูลนิธิด้วยสีหน้าเศร้า ก่อนที่ชูใจจะพบกับแรงกล้า ชูใจเข้าไปเอาเรื่อง เพราะการที่แรงกล้าตัดหน้าลงลิฟต์ไปนั้นทำให้ป้าแม่บ้านคนนั้นต้องคลอดบนรถมอเตอร์ไซต์อย่างทุลักทุเล ทุกคนต้องเข้ามาห้ามชูใจ ชูใจบอกว่าคนอย่างแรงกล้าจะต้องถูกสวรรค์ลงโทษให้ตกอับอย่างแน่นอน แรงกล้าได้แต่ยิ้มขำ มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนนี้เสี่ยบารมีตอบตกลงให้เขาแต่งงานกับแคทแล้ว โดยที่แรงกล้าไม่เห็นว่าเทวรูปเทพเจ้าที่แรงกล้ายืนพูดอยู่ข้างหน้า อยู่ๆก็เหมือนมีแสงเรืองรองขึ้นมา
ไอ้แรงกล้า...ตื่นเว้ย...ตื่นๆๆ แรงกล้าตื่นขึ้นมาที่มูลนิธิก่อนจะตกใจเมื่อเจอกับ เจ็กตง...เจ้าหน้าที่คนเก่าคนแก่ที่ดูแลมูลนิธิ ป้าสวย...แม่ครัวและแม่บ้านของมูลนิธิ แรงกล้ากำลังงงและสงสัยว่าเค้าอยู่ที่ไหน ก่อนจะได้ยินเสียงเข้มดังเข้ามา “เริ่มงานวันแรกก็จะอู้แล้วเหรอ” เมื่อแรงกล้าหันไปตามเสียงนั้นก็ต้องตกใจ เพราะเจ้าของเสียงนั้นก็คือ ชูใจ...หญิงสาวผู้ที่ไม่ได้สวยแต่หน้า แต่จิตใจยังสวยอีกด้วย ชูใจเป็นญาติกับเจ็กตง ช่วงแรกชูใจมาเป็นอาสาให้ที่นี่เพราะอยากจะช่วย แต่พอทำไปทำมาชูใจเริ่มรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ช่วยคนอื่น ประกอบกับปมในใจที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตเพราะไปถึงโรงพยาบาลช้า จึงช่วยเหลือไม่ทัน ชูใจรู้ซึ้งว่าทุกวินาทีมีค่าและสำคัญกับการช่วยชีวิตคน จึงตัดสินใจมาเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มูลนิธิร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มตัว
แรงกล้าไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แรงกล้าวิ่งออกไปจากมูลนิธิเพื่อจะกลับไปยังโลกอันสวยงาม โลกที่กำลังจะเจริญรุ่งเรืองของเขา แต่แล้วแรงกล้าก็ต้องพบกับ ก้ำกึ่ง...อาสาสมัครสุดเนิร์ดที่มีอาชีพหลักเป็นช่างยนต์ ปกติ...อาสาสมัครสุดติสต์ ผู้รักและเข้าใจสัตว์โลกทุกชนิด และ กอหญ้า... อาสาสมัครสาวนักศึกษาปริญญาโท ผู้หลงใหลการขับรถ ทั้ง 3 คน เพิ่งมาถึงมูลนิธิเพราะวันนี้มีนัดเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนใหม่ ซึ่งก็คือแรงกล้านั่นเอง
แรงกล้าหมดอาลัยตายอยากที่ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเพียงชั่วข้ามคืน แล้วแรงกล้าก็นึกขึ้นได้ หรือที่เขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้เพราะเขาไปพูดจาท้าทายเทวรูปที่ศาลเจ้านั้น แล้วความหวังของแรงกล้าก็เริ่มฉายแสงอีกครั้ง แรงกล้าไม่รอช้ารีบเอาเงินทั้งหมดที่ตัวเองมีอยู่ไปซื้อของเซ่นไหว้มาขอขมาลาโทษ ก่อนที่แรงกล้าจะอึ้งไปเมื่อมาถึงแล้วพบว่าเทวรูปเทพเจ้านั่นไม่อยู่ซะแล้ว เจ็กตงบอกว่าเทวรูปองค์นั้นเสี่ยบารมีอัญเชิญมาจากไต้หวันปีละครั้งเท่านั้น ถ้าแรงกล้าอยากกราบท่าน จะต้องรออีกปีนึง ! แรงกล้าช็อกที่เขาต้องเป็นอาสาสมัครกู้ภัยไปอีกปีนึงจริงๆเหรอ ระหว่างนั้นอยู่ๆก็มีกระดาษคำทำนายลอยเข้ามาแปะที่หน้าของเขา แรงกล้าหยิบมาอ่าน มีใจความว่า แรงกล้าจะต้องอยู่ในโลกนี้ไปจนกว่าแรงกล้าจะได้เรียนรู้ถึงคำว่า “ความรัก” และ “ความเสียสละ”
คืนนั้น เจ็กตงกับป้าสวยพาแรงกล้าเข้ามาที่ห้องนอนในมูลนิธิ แรงกล้ามองห้องนอนแล้วก็อยากจะร้องไห้ที่ตัวเองต้องมานอนห้องที่เล็กกว่ารังหนูแบบนี้ ก่อนที่แรงกล้าจะนึกได้ว่า ในเมื่อเซียมซีบอกให้เรามีความรัก ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องมีความรักให้ได้
เช้าวันรุ่งขึ้น แรงกล้าตื่นแต่เช้า เดินออกมาจากมูลนิธิเพื่อหาทางกลับไปยังโลกเดิม แรงกล้าเดินไปเรื่อยๆ จนเกือบโดนรถมอเตอร์ไซต์ชน คนขับรถลงมาโวยวายว่าแรงกล้าเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ แต่พอเห็นหน้าแรงกล้าเท่านั้น ติ๊ดตี่...สาวก๊าบไบค์สุดเปรี้ยว ก็ใจละลาย เปลี่ยนโหมดเป็นห่วงใยเข้ามาถามไถ่ทันทีว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แล้วชวนไปทำแผลที่บ้าน ติ๊ดตี่พาแรงกล้ามาที่ร้านอาหารตามสั่งใต้หอพัก ซึ่งเจ้าของร้านก็คือ เฮียตุ๊...ผู้ไม่เคยแพ้ใครเรื่องความงก พ่อของติ๊ดตี่เอง ชนะศึก...นักข่าวเคเบิ้ลขี้โม้ ที่คอยหาข่าวอยู่ในละแวกมูลนิธิ จ่าเฉย อาสาสมัครตำรวจเฉิ่ม...ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ ก็เกิดสงสัยว่าแรงกล้าเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ชูใจกับกอหญ้าที่ลงมาจากหอพักได้ยินพอดี ก็เลยเข้ามาแนะนำว่าแรงกล้าเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิคนใหม่ ชนะศึกได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกไม่ไว้ใจ เพราะตัวเองจีบชูใจอยู่ แรงกล้าก็หน้าตาดี ถ้าทำงานที่มูลนิธิด้วยกันก็ต้องใกล้ชิดกันซิ ชนะศึกจึงคิดจะหาเรื่องแรงกล้า แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงวอของชูใจก็ดังขึ้นว่ามีเหตุด่วนให้รีบไป ชูใจกับกอหญ้ารีบวิ่งออกไป แต่พอเห็นแรงกล้าไม่ตามไป ก็หันกลับมาช่วยกันทั้งผลักทั้งดันให้แรงกล้าออกไปด้วยกัน
แรงกล้าถูกลากมาที่รถมูลนิธิ ซึ่งก้ำกึ่งและปกติรออยู่แล้ว กอหญ้าขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ชูใจเห็นแรงกล้ายืนงงก็ผลักแรงกล้าขึ้นรถแล้วสั่งให้ออกรถทันที แรงกล้าถึงกับอึ้งไปว่าเขาจะต้องติดอยู่ในชีวิตอย่างนี้จนกว่าเขาจะได้เรียนรู้ที่จะ “รัก” คนอย่างแท้จริงหรือนี่ ถ้านี่เป็นหนทางเดียวที่เขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตในโลกเดิม เขาก็คงไม่มีทางเลือกอีกแล้ว แรงกล้าจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในบทบาทหน้าที่การเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมแรงร่วมใจ
ขณะที่แรงกล้าเริ่มออกไปช่วยงานมูลนิธิบ่อยมากขึ้น ทำให้แรงกล้าสังเกตเห็นว่าจะมีนักข่าวมาทำข่าว แรงกล้าจึงคิดว่าถ้าเขาจะกลับไปดังอีกครั้ง เขาจะต้องทำตัวเป็นข่าว แรงกล้าจึงพยายามเสนอหน้าไปทุกงาน แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของแรงกล้า จึงทำให้แรงกล้าโดนด่าทุกที แต่สิ่งหนึ่งที่แรงกล้าไม่ทันได้สังเกตตัวเองก็คือ เขาเริ่มสนิทสนมกับชูใจ จากการใช้ชีวิตอยู่ในมูลนิธิและการไปช่วยคนต่างๆ
ขณะเดียวกันด้วยความหล่อและการทำตัวเป็นข่าวก็ไปเข้าหูเข้าตาน้องแคท จนทำให้แรงกล้าคิดจะใช้น้องแคทมาเป็นทางลัดที่จะทำให้เขากลับไปอยู่ในโลกเดิม แต่ก็เหมือนมีเสียงในใจมาบอกกับแรงกล้าว่า เขาไม่ควรทำอย่างนั้น แรงกล้าอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป แต่คนรอบข้างต่างรู้ว่าแรงกล้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น
มีเคสที่แรงกล้าออกปฏิบัติงานช่วยคน ซึ่งแคทอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย แคทเห็นถึงความเป็นฮีโร่และรู้สึกประทับใจ จนหมายมั่นต้องการเป็นแฟนกับแรงกล้าให้ได้ จึงนัดให้แรงกล้ามาทานข้าวกับเสี่ย โดยที่แรงกล้าไม่รู้เลยว่าแคทวางแผนมัดมือชกให้เขาแต่งงานกับเธอ แต่แล้วระหว่างที่แรงกล้าจะเข้าไปเจอกับเสี่ยบารมี ก็ได้มีเหตุรถชนกัน แรงกล้าอึ้งไปเพราะรถที่เกิดอุบัติเหตุก็คือรถของมูลนิธิที่มีชูใจเป็นคนขับเพราะกอหญ้าติดสอบปริญญาโท รถเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทางและเริ่มมีประกายไฟที่ห้องเครื่อง แรงกล้าจะเข้าไปช่วยชูใจ แต่ทุกคนห้ามไว้เพราะอันตราย แรงกล้าผลักทุกคนออกก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปช่วยชูใจโดยไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง ก่อนที่เขาจะพบว่าชูใจยังหายใจอยู่ น้ำตาแห่งความดีใจของแรงกล้าไหลออกมาจนหยดลงบนใบหน้าของชูใจ แรงกล้ารู้ทันทีว่าความรักเป็นยังไง ทันใดนั้นเสียงแตรรถพร้อมกับเสียงของไซเรนก็ดังแทรกเข้ามา.....
แรงกล้าสะดุ้งตื่นแล้วพบว่าตัวเองสลบอยู่ในลิฟต์ได้ยังไง แล้วแรงกล้าก็ตกใจเมื่อพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในชุดในวันสุดท้ายที่เขาเป็นซุปตาร์ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย “ร่วมแรงร่วมใจ” แรงกล้านึกทบทวนถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา ขณะที่ชูใจเองก็กำลังช่วยป้าแม่บ้านที่กำลังใกล้คลอดลงลิฟต์มาเรียกแท๊กซี่ที่หน้าตึก แต่แล้วทันใดนั้นรถมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ก็ขับเข้ามา ชูใจอึ้งไปเมื่อเห็นแรงกล้าคือคนขับรถนั่นเอง แรงกล้าตัดสินใจเปิดประตูรถลงไป อุ้มคนท้องแก่ขึ้นไปบนรถแล้วรีบขับรถมูลนิธิออกไปทันที
แรงกล้าลุ้นอยู่หน้าห้องผ่าตัดกับชูใจ ชูใจเองไม่เข้าใจว่าทำไมแรงกล้าถึงได้กลายเป็นคนละคนกับเมื่อเช้า เพราะเมื่อเช้าแรงกล้าคนที่เธอเจอเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด แต่แล้วหมอก็ออกมาจากห้องผ่าตัดก่อนจะบอกว่าหญิงท้องแก่คนนั้นปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก ด้วยความดีใจทำให้แรงกล้ากับชูใจเผลอกระโดดกอดกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะนึกได้ ชูใจรีบผละออกจากแรงกล้า ก่อนจะขอบคุณแรงกล้าที่พาหญิงท้องแก่มาส่งโรงพยาบาลได้ทัน ชูใจออกไปโดยไม่เห็นว่าแรงกล้ามองตามและกำลังจะตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต
แรงกล้ามาหาชูใจที่มูลนิธิท่ามกลางความแปลกใจของชาวมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” ทุกคนตกใจเมื่อเห็นซุปตาร์มาปรากฏตัว เช่นเดียวกับชูใจที่ตกใจเมื่อเห็นแรงกล้า แรงกล้าจึงได้บอกว่า เขามาที่มูลนิธิเพื่อจะมาตอบคำถามที่ชูใจถามเขาว่า ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไป แรงกล้าจึงบอกว่า เพราะเขาได้เรียนรู้และรู้จักคำว่า “รัก” แล้ว และคนที่ทำให้เขารู้จักคำว่า “รัก” ก็คือชูใจนั่นเอง ก่อนที่ก้ำกึ่ง ปกติ และกอหญ้าจะแซวชูใจกับแรงกล้าว่า เหมือนมูลนิธิ “ร่วมแรงร่วมใจ” จะตั้งขึ้นเพื่อ “แรงกล้า” กับ “ชูใจ” เลย เพราะเป็นการเอาทั้งสองชื่อมารวมกันนั่นเอง แต่แล้วเจ็กตงก็ได้รับวิทยุว่าตอนนี้มีเหตุเพลิงไหม้ ทันใดนั้นแรงกล้าก็ถอดสูทออกก่อนจะคว้าเสื้อมูลนิธิ ขึ้นมาใส่ แล้วดึงมือชูใจออกไปช่วยคนทันที...