นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำหรับผู้สมัครงาน


   บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัว ของเจ้าของข้อมูล บริษัทจึงมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และเป็นการสร้างมาตรฐานการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้สมัครงานมอบไว้ให้กับบริษัท ทั้งนี้ เว็บไซต์ Job.ch7.com อาจมีการปรับปรุงพัฒนา เพื่อการให้บริการที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ

ข้อ 1. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่บริษัทจัดเก็บ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของผู้สมัครงานได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยบริษัทจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเท่าที่จำเป็น และถูกต้องตามความเป็นจริง โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและวิธีการเป็นไปตามนโยบายนี้ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บได้แก่
  • 1.1 ข้อมูลเพื่อการระบุตัวตนของผู้สมัคร เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วัน-เดือน-ปีเกิด เพศ รูปถ่าย เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลครอบครัว สถานภาพการสมรส หรือสถานภาพทางการทหาร เป็นต้น
  • 1.2 ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) บัญชีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน เป็นต้น
  • 1.3 ข้อมูลประวัติการศึกษาหรือประวัติการทำงาน ความรู้ความสามารถ การฝึกอบรม
  • 1.4 ข้อมูลอื่นใดที่ผู้สมัครงานจะมอบให้บริษัท เช่น เงินเดือนปัจจุบัน เงินเดือนที่ต้องการ ตำแหน่งงานที่สนใจ เป็นต้น
  • 1.5 เอกสารประกอบการสมัครงาน เช่น ประวัติการทำงานโดยย่อ (Curriculum Vitae หรือ Resume) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต่างๆ สำเนาวุฒิการศึกษา เป็นต้น
  • 1.6 ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น หมายเลข IP Address ข้อมูล Cookie ข้อมูลสถิติ กิจกรรมที่ใช้บริการ รายละเอียดของอุปกรณ์ที่ใช้งาน ข้อมูลระบุตำแหน่ง GPS (IP Geo Location) เป็นต้น
  • บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา ความพิการ ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ซึ่งเป็นข้อมูลละเอียดอ่อนที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หรือมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น บุคคลอ้างอิงของผู้สมัครงาน นายจ้างเดิมของผู้สมัครงาน เป็นต้น
  • ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลละเอียดอ่อนข้างต้น หากผู้สมัครงานไม่ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุได้ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิไม่พิจารณาการสมัครงานดังกล่าวและบริษัทจะไม่บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้
  • ข้อมูลใดที่ผู้สมัครงานได้ส่งให้กับบริษัท จะต้องเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด อาจส่งผลให้ใบสมัครงานถูกปฏิเสธ หรือหากภายหลังการจ้างบริษัทตรวจสอบพบ อาจมีโทษทางวินัยหรือเลิกจ้าง

ข้อ 2. ฐานตามกฎหมายที่บริษัทใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานตามวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท สำหรับข้อมูลที่ต้องขอความยินยอมก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานโดยอาศัยฐานอื่นตามกฎหมาย นอกเหนือจากความยินยอมที่ได้ให้ไว้ ดังกรณีต่อไปนี้
  • 2.1 เป็นการใช้ข้อมูลเพื่อกิจการสื่อมวลชน งานศิลปกรรม วรรณกรรม ซึ่งเป็นไปตามจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • 2.2 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลเพื่อการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณาคดีของศาล
  • 2.3 เพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาหรือใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญา
  • 2.4 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
  • 2.5 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
  • 2.6 เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล
  • 2.7 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐได้มอบหมายหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • 2.8 เป็นการเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษาวิจัยเก็บสถิติ โดยมีมาตรฐานการป้องกันข้อมูลตามกฎหมาย
  • 2.9 เป็นการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลตามเหตุอื่นใดที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้อำนาจบริษัทสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมก่อน

ข้อ 3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  • 3.1 เพื่อใช้พิจารณาความสามารถและคุณสมบัติของผู้สมัครงาน
  • 3.2 ใช้สำหรับจัดทำฐานข้อมูลผู้สมัครงานของบริษัท
  • 3.3 ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน
  • 3.4 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ ตลอดจนตามข้อกำหนดแนวทางของหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัท
  • 3.5 เพื่อใช้ข้อมูลสำหรับประมวลผลหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI)

ข้อ 4. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูล

  • บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานไว้ตามระยะเวลาอันสมควรตามความจำเป็นที่บริษัทต้องใช้ข้อมูลของผู้สมัครงานในการดำเนินการของบริษัท และจะทำลายข้อมูลของผู้สมัครงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่สมัครงาน หรือได้เพิกถอนความยินยอมสำหรับข้อมูลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผู้สมัครงานได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงานของบริษัท บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัครงานตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานบริษัท
  • ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลไว้นานกว่ากำหนด ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการตามกฎหมาย หรือดำเนินการตามข้อเรียกร้องของบุคคลภายนอกซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายกำหนดให้เก็บรักษาไว้

ข้อ 5.สิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  • ผู้สมัครงานมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัท โดยร้องขอให้บริษัทดำเนินการตามสิทธิของผู้สมัครงานดังต่อไปนี้
  • 5.1สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของที่บริษัทจัดเก็บไว้และขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือขอให้บริษัทเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยบริษัทจะดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับคำขอจากผู้สมัครงานตามระเบียบของบริษัท เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
  • 5.2สิทธิขอรับหรือให้ส่งข้อมูลที่สามารถอ่าน ใช้งานหรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติไปยังหน่วยงานหรือบุคคลอื่น
  • 5.3สิทธิคัดค้านการเก็บ ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม เว้นแต่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบธรรมตามกฎหมาย
  • 5.4สิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลายหรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่บริษัทเก็บรักษาไว้ หรือให้บริษัทดำเนินการทำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือบริษัทมีสิทธิในการเก็บรักษาตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดไว้
  • 5.5 สามารถขอให้บริษัทปรับปรุง แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานให้เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  • 5.6สิทธิถอนความยินยอม ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานได้ สำหรับข้อมูลที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมไว้ แต่การถอนความยินยอมของผู้สมัครงานจะไม่กระทบต่อ การเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้
  • 5.7สิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทจะดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้มีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่จัดรวมถึง ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย บริษัทจะพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดตามกระบวนการรับเรื่องของบริษัท ทั้งนี้หากมีค่าใช้จ่าย บริษัทจะแจ้งให้ผู้ร้องขอและเจ้าของข้อมูลทราบก่อนดำเนินการ
  • ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งเหตุผลให้กับเจ้าของข้อมูลได้รับทราบ โดยเจ้าของข้อมูลสามารถคัดค้านหรือโต้แย้งได้โดยบริษัทจะบันทึกคำโต้แย้งหรือคัดค้านไว้เป็นหลักฐาน

ข้อ 6. ช่องทางการรับข้อมูลของผู้สมัครงานอื่นนอกเหนือจากเว็บไซต์ Job.ch7.com

  • นอกเหนือจากข้อมูลการสมัครงานบนเว็บไซต์ Job.ch7.com แล้ว เพื่อให้ผู้สมัครงานมีช่องทางในการสมัครงานที่มากยิ่งขึ้นและบริษัทสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้สมัครงานได้อย่างครอบคลุม บริษัทจึงมีการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทตัวแทนจัดหางานเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการรับสมัครงาน ดังนั้นในกรณีที่ผู้สมัครงานได้สมัครงานกับบริษัทผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว บริษัทถือว่าผู้สมัครงานยินยอมให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานได้

ข้อ 7. บุคคลหรือหน่วยงานที่ข้อมูลอาจถูกส่งไปจัดเก็บหรือเปิดเผย

  • บริษัทอาจมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานไปเก็บรักษาหรือเปิดเผยให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
  • 7.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานด้านแรงงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน ในกรณีที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติงานของบริษัท
  • 7.2 บริษัทในเครือ หรือพันธมิตรอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • 7.3 ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่ให้บริการแก่บริษัท

ข้อ 8. การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

  • บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ อาทิ การส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรักษาบนฐานข้อมูลกลุ่มเมฆ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำในต่างประเทศ อาทิ Amazon ซึ่งมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานสากล โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ในช่องทาง https://aws.amazon.com/th/privacy/

ข้อ 9. การใช้งานคุกกี้ (Cookie) บนเว็บไซต์

  • เว็บไซต์มีการเก็บข้อมูลผ่านคุกกี้ (Cookie) ซึ่งหมายถึงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ติดตั้งไว้บนอุปกรณ์ของผู้สมัครงาน เพื่อช่วยในการใช้งาน คุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เข้าใจถึงความสนใจพิเศษและพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ช่วยจัดการเนื้อหาและตำแหน่งงานที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้สมัครงาน โดยผู้สมัครงานมีสิทธิจะเลือกรับหรือปฏิเสธ Cookie ก็ได้ ซึ่งจะมีการสอบถามโดยชัดแจ้งผ่านหน้าเว็บไซต์ แต่ผู้สมัครงานอาจไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงอาจไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาหรือบริการบางส่วนได้ (อ่านรายละเอียดนโยบายคุกกี้ Cookie เพิ่มเติมได้ที่ https://www.ch7.com/cookie-policy)

ข้อ 10. มาตรฐานการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย

  • บริษัทมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยเข้ารหัสความปลอดภัยแบบ Advanced Encryption Standard หรือ AES-256 เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมและรักษาไว้ โดยการเข้าถึง การใช้และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวจะกระทำได้โดยพนักงานที่บริษัทมอบหมายหน้าที่ไว้เท่านั้น และบริษัทจะมีมาตรการตรวจสอบการทำงานและการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทจะมีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอด้วยการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสียหาย และการนำไปใช้งานในทางที่ผิด โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นโยบายการบริหารจัดการและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล (https://www.ch7.com/privacy-policy)

ข้อ 11. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและช่องทางติดต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

  • หากผู้สมัครงานประสงค์จะติดต่อบริษัท เพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัครงานสามารถติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

  • หมายเลขโทรศัพท์ 0 2495 7777 ต่อ 711
  • บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7HD)
  • เลขที่ 998/1 ซอยร่วมศิริมิตร (พหลโยธิน 18/1) ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900

  • บริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะมีการประกาศการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ของบริษัท การใช้บริการเว็บไซต์ของผู้สมัครงานถือเป็นการรับทราบข้อกำหนดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ และการใช้บริการอย่างต่อเนื่องภายหลังจากที่มีการประกาศเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ย่อมถือเป็นการรับทราบการแก้ไขแต่ละครั้งด้วยเช่นเดียวกัน

  • มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564
  • บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด