นักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของตัวแทนนำเข้า DMC มาวิน ธนะปรีดากุล นำ Rolls Royce มูลค่ากว่า 44 ล้าน บุก "เกาะสมุย ในงาน สตรีท คิง" (KOH SAMUI STREET KING) กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่เกาะสมุย

View icon 551
วันที่ 6 ต.ค. 2566
แชร์

นักธุรกิจเลือดใหม่มาดเข้ม มากความสามารถ “มาวิน ธนะปรีดากุล” นักธุรกิจฮ่องกง เชื้อสายไทย บุกเกาะสมุย นำรถยนต์คู่ใจ Rolls Royce มูลค่ากว่า 44 ล้าน เข้าร่วมกิจกรรม "เกาะสมุย สตรีท คิง"  ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 23-25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ภายในงานมีการนำรถซุปเปอร์คาร์กว่า 50 คัน อาทิเช่น Lamborghini , Ferrari , McLaren , Rolls-Royce , Bentley , Huracan , Audi และอีกมากมายมารวมตัวในพื้นที่เกาะสมุย วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก  ซึ่งจัดขึ้นที่โค้ง Sunset บริเวณชายทะเลบ้านหน้าทอนเพื่อให้ประชาชนในและนักท่องเที่ยวในเกาะสมุยได้ออกมาถ่ายรูปกัน ก่อนที่ขบวน supercar ทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปรับประทานอาหารเย็นกันที่ fisherman market ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ชมรถและถ่ายรูปกัน และภายในงานยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเกาะสมุย โดยได้ให้เหล่า supercar จำนวนกว่า 50 คัน รวมกันขับรถไปทำกิจกรรมตามสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะสมุย เริ่มจากการทำประโยชน์เพื่อสังคม เป็นการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา ณ วิทาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ โดยภายในงานมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประทานในพิธี และในงานนี้ นักธุรกิจหนุ่มอย่าง มาวิน ในนามเจ้าของตัวแทนนำเข้า DMC แห่งประเทศไทยก็ยังได้ร่วมบริจาคเงินทอดผ้าป่าให้กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณอีกด้วย โดยงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23-25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกาะสมุยได้สำเร็จอย่างเกินคาด


651ff4050d5662.67206085.jpg

651ff4052f6ea1.85460484.jpg
 
หลายคนคงสงสัยว่า มาวิน ธนะปรีดากุล นักธุรกิจหนุ่ม เจ้าของตัวแทนนำเข้า DMC แบรนด์ชุดแต่ง Supercar ระดับพรีเมี่ยมนี้เป็นใคร ?

651ff4055fe993.67185675.jpg
 
สำหรับ มาวิน ธนะปรีดากุล เกิดที่สหราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ. 2532 และอาศัยอยู่ในลอนดอน แต่ด้วยความที่ยายของมาวินนั้นเป็นชาวจังหวัดสงขลา จึงมาเยี่ยมยายที่ประเทศไทยทุกปีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ทางด้านการศึกษานั้น มาวินเล่าว่า เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ สไตล์บริติช (อังกฤษ) ซึ่งในโรงเรียนนั้น จะประกอบไปด้วยชาวฮ่องกง รวมถึงชาวเอเชียไม่ถึง 5 เปอร์เซนต์ และที่เหลือเป็นชาวตะวันตกผิวขาวที่มาจาก 20 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในวัยเด็กของคุณมาวินมีโอกาสได้สัมผัสกับภาษา และวัฒนธรรมจากหลากหลายประเทศ รวมถึงยังได้เรียนรู้ความคิด และวิสัยทัศน์ระหว่างประเทศอีกด้วย แต่ชีวิตในวัยเด็กของมาวินนั้นต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่พ่อแม่ทำธุรกิจที่ต้องเดินทางไปทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้มาวินเริ่มมีความสนใจ และสนุกกับการเรียนภาษาต่าง ๆ

ความสามารถทางด้านภาษา : สามารถพูดได้ถึง 8 ภาษา เริ่มจากภาษาที่ 1 คือ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาหลักที่ใช้สื่อสารขณะเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ ส่วนภาษาที่ 2 คือ ภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นภาษาประจำครอบครัวที่สืบทอดมาจากคุณปู่  ภาษาที่ 3 คือ ภาษาจีนกวางตุ้ง ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในประเทศฮ่องกง และเป็นภาษาประจำครอบครัวเช่นกัน แต่ด้วยความที่คุณมาวินสนใจเกี่ยวกับการทำการตลาดของประเทศจีน จึงเรียนภาษาจีนกลาง เป็นภาษาที่ 4

และขณะที่เรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเกียวโต จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ 5  ต่อมาคุณมาวินได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวมุสลิม จึงศึกษาภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ 6 ผ่านประสบการณ์การทำงานในตลาดตะวันออกกลาง และด้วยความที่ชื่นชอบในประเทศเกาหลี จึงเดินทางไปอยู่ที่ประเทศเกาหลีกว่าครึ่งปี และเรียนภาษาเกาหลี เป็นภาษาที่ 7 กระทั่งปี 2562

คุณมาวินได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย และตัดสินใจปักหลักอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง จึงเริ่มเรียนภาษาไทยอีกครั้ง นับเป็นภาษาที่ 8 ในชีวิต สำหรับการเรียนภาษานั้นในความคิดของคุณมาวินนั้น ไม่ใช่แค่สิ่งที่จะจำเป็นต่อการสื่อสารในสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจ และป้องกันความผิดพลาด รวมถึงโอกาสก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งการเรียนรู้ภาษาทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ส่งผลให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตได้อย่างรวมเร็ว และมีประสิทธิภาพ

คุณมาวิน จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก? : คุณมาวิน เล่าว่าด้วยความที่คุณแม่ทำงานเกี่ยวกับการเงิน ทำให้มาวินสนใจในเรื่องการเงินจนกลายเป็นงานอดิเรก และเลือกที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยในปี 2549 ได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ลอนดอน หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการบริหารการเงิน เพื่อศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ อีกทั้งมหาวิทยาลัยที่สหราชอาณาจักรเหมาะแก่การวิจัยและการสืบค้นหาความรู้

ต่อมาในปี 2553 ได้ศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ สาเหตุที่เลือกศึกษาต่อที่นี่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีความก้าวไกลทางด้านธุรกิจค่อนข้างสูง และเป็นประเทศที่พัฒนาสูงสุดในทวีปเอเชีย

ประสบการณ์ในการทำงาน และการลงทุนที่เคยผ่านมา : คุณมาวิน เล่าว่า ในปี 2013 ได้เริ่มทำธุรกิจที่ประเทศสหราชอาณาจักร เริ่มมากจากความเข้าใจในวัฒนธรรม และตลาดเอเชีย จึงมุ่งเน้นที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนเหล่าสตาร์ทอัพที่ต้องการขยาย ตลาดในทวีปเอเชีย รวมถึงได้ช่วยสนับสนุนผู้ก่อตั้ง และผู้ประกอบการธุรกิจจากเอเชียให้มีประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น โดยคุณมาวินได้ทำการวิจัย และค้นคว้า เพื่อคิดค้นกระบวนการ และแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด  เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

สิ่งที่คุณมาวินทำอยู่ในตอนนั้น แม้จะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คุณมาวินหวังว่า จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง และสร้างความยั่งยืนให้กับการทำงานในอนาคต คุณมาวินหวังว่าจะช่วยให้ผู้กระกอบการตระหนักถึงโปรเจกต์ที่กำลังเผชิญหน้า และส่งผลให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ต่อมาในปี 2016 คุณมาวิน เล่าว่าเคยมีประสบการณ์ในการลงทุนที่ตะวันออกกลาง หรือ ในประเทศดูไบ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตการค้าเสรีอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยความมั่นคงทางการเมือง และทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งรัฐบาลของประเทศดูไบยังสนับสนุนนโยบายให้กับผู้ประกอบการ ดูไบจึงกลายเป็นดินแดนที่ผู้ประกอบการทั่วโลกต่างจับตามอง และเข้ามาพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี ซึ่งมาวินมีโอกาสเข้ามาลงทุนด้วยการช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้มีทุนทรัพย์สูง และช่วยค้นหาโครงการที่มีศักยภาพ รวมถึงยังเข้ามาช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

คุณมาวิน ยังเล่าต่ออีกว่า ปี 2018 เคยมีประสบการณ์ด้านการลงทุนที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยร่วมมือกับรัฐบาลดำเนินโครงการ NYSTAR และร่วมกันเปิดตัวศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการ ด้วยความร่วมมือกับศูนย์วิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงโปรแกรมสำหรับเทคโนโลยี และนวัตกรรมมากกว่า 300 รายการ  ซึ่งทางคุณมาวินนั้นได้เข้าไปช่วยลงทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีโปรเจกต์เตรียมพัฒนาต่อ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต รวมถึงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีที่สำคัญอีกมากมาย

651ff4057a8036.23434012.jpg

651ff405487984.89810754.jpg