เวลา 09.01 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในการพระราชทานปริญญาบัตรและประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันสมทบ ประจำปีการศึกษา 2567 เป็นวันแรก
ในการนี้ พระราชทานปริญญาบัตรแด่พระสงฆ์ผู้สำเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และปริญญาตรี 9 รูป, พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน, เหรียญรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล จงเจตน์เมธีวิชญ์ แก่นักวิจัยดีเด่น และนักวิจัยรุ่นใหม่ 2 คน, เกียรติบัตรรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล แก่บุคลากรที่มีผลงานดีเด่น ในสาขาการวิจัย การประดิษฐ์นวัตกรรม และความเป็นครู 7 คน, เกียรติบัตรแก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ 17 คน และปริญญาบัตรผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี ทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย รวม 3,394 คน
โอกาสนี้ มีพระราโชวาทความว่า "ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าขอเชิญพระบรมราโชวาท ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้นานมาแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติตน ปฏิบัติงาน ของผู้เป็นบัณฑิต ความว่า "ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดี กับบัณฑิตใหม่ทุกคน ที่ได้รับความสำเร็จในการศึกษา และได้รับเกียรติอย่างสูงในวันนี้ ต่อจากนี้ท่านทั้งหลาย จะออกไปประกอบอาชีพต่าง ๆ ตามทางที่ได้เลือกไว้ ขอท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่ของท่าน โดยเต็มกำลังความสามารถและสติปัญญา ให้สมกับที่ได้รับยกย่องว่าเป็นบัณฑิต บัณฑิตนั้นต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติหลายประการ เช่น มีความรู้และมีความคิด เป็นต้น ความรู้นั้นเป็นหลักของการทำงาน ผู้ที่จะทำงานอย่างใดจำต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นก่อนเป็นเบื้องต้น ส่วนความคิด เป็นเครื่องช่วยความรู้ คือ ช่วยให้ใช้ความรู้ได้ถูกต้อง เช่น จะใช้อย่างไร ที่ไหน เมื่อใด เมื่อมีความรู้สำหรับงาน มีความคิดสำหรับใช้พิจารณาใช้ความรู้ให้ถูกต้องแล้ว ย่อมทำงานได้ผลสมบูรณ์ดี ยากที่จะผิดพลาด ความรู้กับความคิดจึงไม่ควรแยกจากกัน ถ้าบัณฑิตใหม่จะยึดความจริงข้อนี้ไว้เป็นหลักในการทำงานแล้ว เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยดีเสมอ จะทำการงานให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมได้อย่างมาก และจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน พร้อมทั้งความสุขในชีวิตในที่สุด" จึงขอให้บัณฑิตทุกคน น้อมนำพระบรมราโชวาทองค์นี้ ไปพิจารณาเป็นแนวทางปฏิบัติ กล่าวคือ ไม่ว่าจะทำการใด ก็ใช้ความรู้และความคิดควบคู่กันเสมอ ไม่ใช้ความรู้โดยไม่มีความคิด และไม่ใช้ความคิดโดยไม่มีความรู้ พร้อมกันนั้นก็หมั่นเสริมสร้างความรู้และความคิด ให้เจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้น เป็นคุณสมบัติประจำตนสืบไป"
ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และทอดพระเนตรการแสดงดนตรี จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยวงแตรฟันฟาร์ ที่ถ่ายทอดความรื่นเริงและคุณค่าของบทเพลงลูกทุ่ง ในเพลง "Mahidol Salute" ซึ่งประพันธ์ขึ้นใหม่ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสง่างาม และประกาศเกียรติคุณของพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล และเพลง "แสบหัวใจ" กับเพลง "30 ยังแจ๋ว" ที่นำบทเพลงลูกทุ่งมาผสมผสานกับดนตรีป๊อป และใช้เครื่องดนตรีไทยร่วมบรรเลง เพื่อแสดงถึงความกลมกลืนในความหลากหลาย "Harmony in Diversity" สะท้อนเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
เวลา 17.28 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดำรงพล อินทร์จันทร์ คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร นำคณะผู้บริหารคณะโบราณคดี และสมาคมนักศึกษาเก่าคณะโบราณคดี พร้อมด้วยกรรมการดำเนินงานโครงการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เนื่องในโอกาสครบ 70 ปี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลเกียรติคุณ "หอเกียรติยศ" ในฐานะทรงเป็นศิษย์เก่าคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประเทศชาติและประชาชน
นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด นำคณะกรรมการจัดการแข่งขัน 48 ปี ดอกบัวคู่ มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจัดการแข่งขันฯ สมทบทุนสิริกิติ์บรมราชินีนาถ และสมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล
