เสรีพิศุทธ์ แจ้งความเอาผิด สมเด็จฯ ฮุน เซน

View icon 114
วันที่ 23 มิ.ย. 2568
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปตามนัด "พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์" ไปยื่นหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี "สมเด็จฯ ฮุนเซน" กรณีคลิปเสียงหลุดไม่ใช่คลิปเสียงระหว่าง สมเด็จฯ ฮุน เซน กับนายกฯ แต่เป็นคลิปที่สั่งจัดการกับคนเห็นต่างทางการเมือง

ซึ่งก็จะเท่ากับเป็นอีกคดี นอกเหนือจากที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ยื่นฟ้อง "สมเด็จฯ ฮุน เซน" กรณีคลิปเสียงการสนทนากับนายกฯ ไทย ที่เราได้สอบถามความเห็นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์" มองว่า คดีนี้ตำรวจไทยหากรวบรวมพยานหลักฐาน ก็สามารถออกหมายจับได้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหากกระทบก็ต้องกระทบ แต่เป็นความผิดก็ต้องดำเนินคดี

เรื่องเกี่ยวกับการแจ้งความดำเนินคดี เมื่อวานเพิ่งมีข่าวว่า นายชัย มกรา อธิบดีกรมเอเชีย-แปซิฟิก กัมพูชา ได้เชิญ รักษาราชการแทนเอกอัครราชทูตไทยประจำราชอาณาจักรกัมพูชา มาพบ เพื่อยื่นหนังสือทางการทูตแสดงความประท้วงอย่างรุนแรง กรณีที่ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ยื่นฟ้องเรื่องที่มีคลิปเสียงหลุด โดยย้ำว่าการบันทึกบทสนทนาระหว่างผู้นำรัฐ เป็นแนวปฏิบัติมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะเมื่อบทสนทนาเหล่านั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการทูต ความมั่นคงแห่งชาติ หรือ ความสัมพันธ์ทวิภาคี การยื่นฟ้องดังกล่าว จึงมองว่าเป็นการกระทำเพราะมีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดระหว่างกัมพูชา และไทยมากยิ่งขึ้น เรียกร้องให้ไทยดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความเห็นต่างจาก นายภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศและศูนย์นิติศึกษาทางสังคม ประวัติศาสตร์ และปรัชญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าตราบใดที่ไทยไม่ได้ใช้อำนาจบังคับ "เหนือ" สมเด็จฯ ฮุนเซ็น ก็สามารถดำเนินการได้ปกติ ไม่ขัดต่อหลักความคุ้มกัน และความเท่าเทียมทางอธิปไตย เพราะมีคำพิพากษาศาลโลกเป็นแนวทางอยู่

นอกจากนี้ยังมองว่าเรื่องการบันทึกเสียง ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือการที่ปล่อยคลิปเสียงออกมา แล้วส่งผลกระทบมายังประเทศไทย โดยคาดหมายได้ว่าจะบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาล และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ จึงตั้งคำถามว่าการปล่อยคลิปเสียง ใช้อำนาจอะไร ? ถ้ามีกฎหมายรองรับ ก็อาจอ้างความคุ้มกันได้ แต่หากไม่มีก็อ้างไม่ได้