สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - วันนี้ (14 มิ.ย.) วงเจรจาร่วมแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านทวิภาคี JBC จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนจะเริ่มได้เรียกว่าปฏิกิริยาหลังกัมพูชางัด 6 มาตรการตอบโต้ไทย ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
รถขนสินค้า รถจักรยานยนต์ รถยนต์ของชาวบ้าน ที่ติดแหงกหน้าประตูด่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นับเป็นความโกลาหล เมื่อฝั่งกัมพูชาปิดประตูผ่านแดนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทำให้รถทุกชนิดทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา ข้ามไป-มา ไม่ได้ ซ้ำเติมการเปิดด่านที่ตอนนี้เวลาเปิดก็ไม่ตรงกันอยู่แล้ว ปกติไทยเปิด 08.00 น. กัมพูชาเปิด 09.00 น.
จู่ ๆ มาปิด และเปิดเพียง 30 นาที 10.30 น. เปิดให้รถวิ่งข้าม ก่อน 11.00 น. ก็ปิดเฉพาะประตูใหญ่ แต่เปิดประตูเล็กให้บุคคลทุกสัญชาติ เข้า-ออก ได้ปกติ และ ตม.กัมพูชา ก็ให้คำตอบเรื่องนี้ไม่ได้ บอกเพียงต้องรอคำสั่งจากส่วนกลางเท่านั้น
"ด่านแดนถาวรบ้านแหลม" ใช้งานได้ไม่สะดวก ลามมาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ก็มีชาวกัมพูชานับพันคนที่เข้ามาทำงานในไทย เดินทางกลับเพิ่มขึ้น เพราะกลัวจะมีการปิดด่านเพิ่ม
นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ จังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมยืนยันฝั่งไทย "ไม่มีคำสั่งปิดด่าน" ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เวลาเปิด-ปิดด่าน ยังเป็นตามประกาศเดิม ของกองกำลังบูรพา คือ เปิดตั้งแต่ 08.00-16.00 น. ทุกวัน จึงทำให้การเดินทางที่หน้าด่านคลี่คลาย ก่อนกลับสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ บริเวณนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงไปรษณีย์และคมนาคมของกัมพูชา ยังทำการตัดสายอินเตอร์เน็ตส่งจากฝั่งไทยด้วย ซึ่งประเด็นตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และความโกลาหลหน้าด่าน ก็เกิดขึ้นหลังการเคลื่อนไหวของ นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ประกาศยุติซื้ออินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า และให้งดออกอากาศภาพยนตร์ไทย รวมทั้ง "สมเด็จฮุน เซน" ก็ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ไทย หลังมีกระแสข่าวประเทศไทย ประกาศตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ซึ่งเรื่องนี้ นายกฯ แพทองธาร บอกกัมพูชาเข้าใจผิด ที่สำคัญต้องหารือกับ สมช. ก่อน
นายกฯ แพทองธาร ยังเรียกร้อง "ผู้นำกัมพูชา" ใช้สันติวิธีผ่าน JBC แทนการปะทะผ่านโซเชียล ไทยพร้อมเคารพกระบวนการเจรจา แต่หากสถานการณ์ลุกลามก็พร้อมปกป้องอธิปไตยทุกมิติ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เผยว่าผู้นำระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศ ได้พูดคุยกันแล้ว โดยได้ข้อสรุปว่าอยากให้ความสัมพันธ์ยังคงอยู่ตามปกติ จึงขอให้รับฟังข้อมูลจาก 2 รัฐบาล ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าเพิ่งขยายความ เชื่อว่าหลังถกวง JBC ทุกอย่างจะกลับสู่ปกติ เช่น การเปิด-ปิดด่าน พร้อมย้ำ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีไป พร้อม ๆ กับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจร่วมกัน
ขณะที่ ผบ.ทบ. ลงพื้นที่เยี่ยมกำลังพลที่ฐานปฏิบัติการ ใกล้แนวปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เตรียมเผยถึงการเตรียมรับสถานการณ์ช่วงการประชุม JBC พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณการล้มการประชุมดังกล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวในรอบคืนที่ผ่านมา นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็โพสต์ 2 ข้อหลัก ๆ ชี้แจงการประชุม JBC ว่า ไม่มีการเจรจาเรื่อง 4 พื้นที่พิพาท และการเปิด-ปิดด่านพรมแดม ในการประชุม JBC วันนี้ (14 มิ.ย.) พร้อมชี้จะเอาพื้นที่พิพาทไปขึ้นศาลโลก แม้ไทยไม่ให้ความร่วมมือก็ตาม
ก็คงต้องติดตามผลประชุมของ 2 ประเทศ ในวง JBC ซึ่งฝั่งไทย ก็จะมี นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมคณะจะไปเจอกับนายฬำ เจีย (LAM CHEA) รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดน หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งกัมพูชา เป็นประธาน หัวข้อหลัก ๆ คือ การปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างกัน
แต่ถ้าเทียบกับโพสต์ นายกฯ กัมพูชา เมื่อคืน ก็ขัดกัน ไหนว่าคุยกันแล้ว ไว้ผลเป็นอย่างไร สิ้นสุดการหารือคงได้รู้กันชัดเจน
