“ภูมิธรรม” ย้ำสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น

View icon 160
วันที่ 9 มิ.ย. 2568
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ภูมิธรรม” ย้ำสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้น หวังประชุม JBC 14 มิ.ย. นี้ ช่วยคลี่คลาย แจงมาตรการปิดด่านทั้งหมดเสี่ยงเพิ่มความขัดแย้ง มอบหน้างานตัดสินใจตามความจำเป็น ลั่นไม่อยากให้สูญเสียแม้แต่เลือดหยดเดียว ขอบคุณทุกฝ่ายอดทนอดกลั้น

วันนี้ (9 มิ.ย.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ไทยและกัมพูชได้คุยกันทุกระดับ ต่อเนื่องจนถึงเมื่อวาน (8 มิ.ย.)ตอน 11:00 น. โดยทางสมเด็จฯ ฮุน เซน อยากหาข้อสรุปที่เป็นสันติด้วยกัน เพราะคิดว่าการเกิดสงครามไม่มีประโยชน์ การสั่งให้ทหารรบการมันเร็วและง่าย แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือทำอย่างไรให้เกิดการยุติโดยที่ไม่ต้องมีการสูญเสีย

นายภูมิธรรม ระบุอีกว่า  สิ่งสำคัญที่เห็นตรงกันคือ เราตกลงกันว่าจะลงพื้นที่ด้วยกัน อยากให้จับมือไปสำรวจพื้นที่ด้วยกัน และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่มีการปะทะกันคือหัวใจสำคัญ ได้ส่งนายทหารมา เราก็ส่งรองแม่ทัพภาคที่2 คิดว่ารองแม่ทัพภาคที่2 คุ้นเคยกับพื้นที่ รู้ภาษาและมีความสัมพันธ์ระดับแม่ทัพภาคต่างๆของเขา จึงส่งไปคุย มันก็ออกในสถานการณ์ที่ดี ข้อตกลงที่เราขอ ซึ่งเค้ายอมก็คือว่าขอให้มีการไปเดินสำรวจพื้นที่ด้วยกัน หลังจากนี้จะให้มีการสำรวจกันทั้งสองฝ่าย และให้เป็นเหมือนเดิมซึ่งเคยทำ และคูที่เกิดขึ้นมาขอให้กลบ ซึ่งได้ถ่ายภาพตอนที่ยังไม่กลบ และตอนกลบแล้ว เพื่อยืนยันว่าสถานการณ์ตรงนี้เป็นการจัดการที่เป็นจริง และขอให้ปรับไปเหมือน ปี 67 ซึ่งความหมายตรงนี้ตนเองอยากให้ยึดถือเพราะมันเป็นเรื่องที่ เราเป็นช่องทางยุตติได้อย่างสงบ ก็คือปรับกำลังกันไป และเขาก็ไปอยู่ในจุดเดิม เราก็มาอยู่จุดเดิมของเราซึ่งครั้งนี้ก็ถือว่าเราได้ประสบความสำเร็จในการยุติการเผชิญหน้า ซึ่งเป็นข้อแรกสุดเลยที่เราอยากได้ เพื่อให้สถานการณ์ค่อยค่อยคลี่คลายลง ถือว่าอยู่ในจุดที่ยุติเรียบร้อยแล้ว

นายภูมิธรรม มั่นใจว่า การประชุม JBC วันที่ 14 มิถุนายนนี้ซึ่งตามวาระที่คุยกันตั้งแต่ต้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังยืนยันว่าส่วนใหญ่ข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาคุยเชิงเทคนิค แต่เราก็อยากให้เคลียร์ตรงนี้ให้ชัดเจนว่าเส้นแดนตรงนี้ มันจะประคองกันไปอย่างไร จนกว่าจะมีข้อตัดสินว่าคิดหาประเด็นในการที่จะตัดสินใจ หรือเงื่อนไขอะไรในการที่จะตัดสินใจ ดังนั้น 14 มิถุนายนคงจำกัดเรื่อง เรื่องลดการเผชิญหน้าซึ่งเป็นข้อแรกก็ก็ยกเลิกไป ก็ถือว่าเข้าสู่อันนี้แล้วขณะนี้บรรยากาศมันก็ค่อยค่อยคลี่คลาย และ ดีขึ้น และได้คุยกันในเชิงของเจบีซีเป็นหลัก ส่วนกรณีของปราสาทต่างๆ เรายังยืนยันไม่อยากให้เอามาคุยกันตรงนี้ แต่ถ้าเขาดีดขึ้นมาเราก็ยินดีรับฟัง ต้องดูว่าวันที่ 14 จะคลี่คลายไปอย่างไร

ส่วนกรณีการปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม ระบุ ได้คุยกับทางกองทัพแล้ว ว่า การประกาศปิดด่านไปทั้งหมด ยิ่งเพิ่มข้อขัดแย้ง ให้มากขึ้น ซึ่งเราก็ลดสิ่งนี้ลง และให้ดูตามความเป็นจริง มีการพูดคุยกันกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่2แม่ทัพภาคที่1 และคุยกับกองกำลังฯจันทบุรีแล้วว่า เราจะค่อยค่อยจากเบาไปหาหนัก เพราะสิ่งที่เราต้องการคือเราจะไม่ยอมให้เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว

“ชีวิตประชาชนชายแดนทั้งสองฝั่ง และทหารแนวหน้าของเรา เป็นสิ่งที่สำคัญ เราอยากแก้ปัญหาแต่เราไม่อยากใช้ความรุนแรงเพื่อให้เกิดความเสียหาย”

“ด่านตอนนี้จริงๆเราไม่ได้ปิดเลย เป็นเพียงแค่จำกัดเวลาจำกัดคนเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่กระทบการค้ายังได้อยู่ เพียงแต่คนที่เข้าออก และมาตรการที่เรากำลังทำตอนนี้ ยังอยู่ในมาตรการ Seal stop save คิดว่าทุกอย่างจะคลี่คลายด้วยดี”

“การประสานงาน ที่พูดคุยกันกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯ ฮุน เซน คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง หลังจากท่าทีทั้งสองมีความเข้าใจมากขึ้น กระบวนการที่เกิดขึ้นจากทางกองทัพกัมพูชามันจึงได้เกิดขึ้น และมาตรการที่เราทำก็อาจจะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้การพูดคุยมันเกิดข้อสรุปได้ง่ายขึ้น”

นายภูมิธรรม ยังระบุ  และการตรึงกำลังของกัมพูชาตามแนวชายแดนที่ตอนแรกมีบอกว่าประมาณ 10,000 กว่าคนนั้น  เชื่อว่าจะค่อยคลี่คลายลง แถวช่องบก กับแถวสามเหลี่ยมมรกต ต้นพระยาสัตบรรณ ตรงนี้คลี่คลายลงแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง