"หมอเตย" ปฏิเสธไม่ได้หลอกเงิน "อดีตเจ้าอาวาส"

View icon 73
วันที่ 30 พ.ค. 2568
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจนำตัว นางเตย และ พันจ่าเอกฉัตรชัย สามีภรรยาคนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังไม่ยอมให้ปากคำ และปฏิเสธทุกข้อหากล่าวหา เตรียมอายัดทรัพย์สินที่ครอบครองทั้งหมดกว่า 100 ล้านบาท ภายในสัปดาห์หน้า

เป็นคำยืนยันของ นางพชรพร หรือ หมอเตย ร่างทรง คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง บอกว่า ไม่ได้หลอกเงินมาจากอดีตเจ้าอาวาส ตนเองให้การไปหมดแล้ว แต่ไม่ยอมตอบที่มาของเงินรายได้ ผู้สื่อข่าว ถามว่า ที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นผลมาจากอดีตชาติหรือชาติปัจจุบัน เจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบ

เช่นเดียวกับ พันจ่าเอกฉัตรชัย หรือ จ่าชัย สามี ถูกถามว่าได้ร่วมมืออะไรกับภรรยาหรือไม่ ก็ไม่ปิดปากเงียบเช่นเดียวกัน ก่อนถูกตำรวจคุมตัวขึ้นรถไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังผัดแรก

นักข่าวก็รุมเข้าไปถามแบบไม่เว้นระยะห่าง ขนาดทราบว่า หมอเตย และ สามี ป่วยโควิด-19 ลูกจ้างสาวนำยาแก้ไข้ แก้อาการโควิด และยารักษาโรคเบาหวาน มาเยี่ยมเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

ล่าสุด หมอเตย และสามี ไม่ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในชั้นศาล จึงถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าเรือนจำ หมอเตย เข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนสามีเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งตามมาตรการกรมราชทัณฑ์ จะนำผู้ต้องกักไปดูแลภายในแดนกักโรค สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาการไม่ร้ายแรง

ส่วนกรณี หมอเตย นอกจากโควิด-19 ยังมีโรคเบาหวาน จัดอยู่ในกลุ่ม 608 กรมราชทัณฑ์ จึงต้องย้ายตัว หมอเตย ไปดูแลอาการ ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำ หากอาการหนักขึ้นจะพิจารณานำตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตามขั้นตอน

ส่วนผลการสอบปากคำ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า หมอเตย และสามี ให้การปฎิเสธ และอ้างว่าเงินรายได้มาจากการขายก๋วยเตี๋ยว และตีมึนในอีกหลาย ๆ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน

ถึงจะบอกว่ารายได้มาจากการขาย ไม่ว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว หรือ ร้านกาแฟ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเงินเก็บถึงหลักล้านบาท โดยเฉพาะร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายกาแฟแก้วละ 50-70 บาท คงไม่ได้กำไรมากจนมีเงินไปซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน และรถจำนวนมากแน่ ๆ