กรรมตามทัน หมอเตย-ผัว ยักยอกเงินวัด

View icon 86
วันที่ 30 พ.ค. 2568
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - "หมอเตย" หญิงคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส วัดไร่ขิง และสามี ที่มีส่วนพัวพันกับการยักยอกเงินวัด ซึ่งตำรวจก็นำหมายศาลไปจับกุมตัวได้ถึงแหล่งกบดาน ก่อนนำตัวมาสอบปากคำต่อ แต่ทั้งคู่ยังปิดปากเงียบ

จังหวะคุม นางพชรพร หรือ หมอเตย กับ พันจ่าเอก ฉัตรชัย มาสอบปากคำ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ทั้งคู่ก็รูดซิปปากเงียบ ไม่เอ่ยใด ๆ เกี่ยวกับการยักยอกเงินวัด ซึ่งเรื่องนี้ จริง ๆ เดิมมีข่าวสัปดาห์นี้จะเคาะการขอศาลฯ ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงเพิ่ม

หนึ่งในผู้ต้องหาก็คือ หมอเตย ตำรวจสอบสวนกลาง นำหมายศาลฯ ไปจับกุม หมอเตย ร่างทรงคนสนิท อดีตเจ้าอาวาส หรือ ทิดแย้ม และสามี ที่บ้านพักค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง

ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตำรวจคิดว่าทั้งคู่ปิดมือถือ เก็บของหนีไปแล้ว แต่โป๊ะแตกเมื่อผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ แจ้งเบาะแสว่า หมอเตยยืมโทรศัพท์คนอื่นโทรมาหาคนงานในวัด พอตรวจสอบก็พบพิกัดโทรศัพท์อยู่ในค่ายลูกเสือ

หมอเตย ถูกออกหมายจับ 4 ข้อหา คือ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ฯ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน

ส่วน พันจ่าเอก ฉัตรชัย ถูกแจ้งเพิ่มอีกข้อหา คือ เป็นธุระจัดหา โฆษณาซื้อขายให้เช่า หรือ ให้ยืมบัญชีเงินฝาก เพื่อใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ซึ่งทั้ง 2 คน ก็ถูกแยกสอบปากคำ แต่ก่อน พันจ่าเอก ฉัตรชัย จะถูกพาตัวไปก็เข้าสวมกอดผู้กองธร หรือ สายลับวัดไร่ขิง พูดคุยอยู่พักหนึ่ง

ผู้กองธร เล่าว่า ช่วงควบคุมตัว พันจ่าเอก ฉัตรชัย มาก็มีอาการเครียดมาก ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป ตนจึงพูดเรื่องธรรมะและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จน พันจ่าเอก ฉัตรชัย สบายใจขึ้น ก่อนขอกอดขอบคุณ

แต่เมื่อทั้งคู่เข้าสู่การสอบปากคำ ก็ไม่ให้ความร่วมมือ จน พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ หรือ บิ๊กเต่า ที่ร่วมสอบปากคำด้วยให้ความเห็นว่า "ทั้งคู่ไม่สำนึก"

นอกจากนี้ ศาลฯ ยังอนุมัติหมายจับ นายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ที่ถูกคุมขังอยู่เรือนจำฯ ซึ่งตำรวจก็จะเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มด้วย

ส่วนวันนี้ (30 พ.ค.) ตำรวจยังจะเร่งขยายผล ติดตามทรัพย์ของผู้ต้องหา ที่อยู่ในต่างจังหวัดทุกแห่ง ซึ่งเป็นทรัพย์ได้มาระหว่างรู้จักกับทิดแย้มตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน