พ่อพยาบาลแค้นลูกถูกฆ่า บุกชกหน้าผู้ต้องหา

เช้านี้ที่หมอชิต - ตามต่อคดีฆ่าโหดรัดคอพยาบาลสาวเสียชีวิตบนเกาะสมุย ตำรวจไปจับผู้ต้องหาได้แล้ว เป็นคนข้างห้อง ผู้ต้องหายอมเปิดปากรับ ฆ่าเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ วานนี้ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพสร้างความโกรธแค้นให้ญาติ โดยเฉพาะพ่อของผู้ตาย

ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจนำตัวนายสุวัฒน์ หรือ แบงค์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่ารัดคอ นางสาว อัญชุลี อายุ 36 ปี พยาบาลโรงพยาบาลเอกชนบนเกาะสมุย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังนายแบงค์ ถูกจับได้ที่ ตำบลบ่อผุด ใกล้กับท่าเทียบเรือโดยสาร ขณะเตรียมหลบหนีออกจากเกาะสมุย ตั้งแต่คืนวันที่ 21 พฤษภาคม

ช่วงจังหวะที่นำตัวมาขึ้นรถ พ่อ ญาติ และเพื่อน ของคนตายที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้น กรูกันเข้าไปหวังจะประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องช่วยกันห้าม และจับตัวพ่อเอาไว้ พร้อมกับปลอบคุณพ่อว่า "ตำรวจจับให้แล้ว มันรับกรรมแล้ว และขอให้พ่อใจเย็น ๆ" นาทีนั้นแววตาของพ่อเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

โดยช่วงที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทำแผนจุดเกิดเหตุ ห้องพักของผู้ตายหมายเลข 211 นายแบงค์บอกว่า ก่อนเกิดเหตุอาศัยอยู่กับแฟนสาว ผู้ช่วยพยาบาล ห้องติดกับผู้ตายหมายเลข 210

ช่วงเกิดเหตุ 02.00 น. นั่งสูบบุหรี่หลังห้อง มองเข้าไปในห้องเห็นผู้ตายนอนหลับ เปิดไฟห้องอยู่  จึงปีนระเบียงหลังห้อง ข้ามไปห้องผู้ตายที่เปิดประตูทิ้งไว้ เข้าขโมยทรัพย์สินแหวนทองคำ เพื่อนำไปขายเล่นพนันออนไลน์ แต่จังหวะนั้นผู้ตายตื่นมาเจอพอดี ใช้มือปิดปาก แขนล็อกลำคอ แต่ผู้ตายขัดขืน กัดที่นิ้ว จึงเหวี่ยงผู้ตายลงบนเตียง และใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต

จากนั้นอุ้มผู้ตายไปนอนบนเตียง จัดฉากว่าโดนข่มขืน แล้วหลบหนีพร้อมกับทรัพย์สินแหวนทอง 1 วง ตุ้มหูทอง 1 คู่ และกุญแจรถเก๋งของผู้ตาย ก่อนขับรถผู้ตายไปจอดทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้า แล้วขึ้นรถแท็กซี่ไปส่งที่ ตำบลแม่น้ำ และนำแหวนทองไปขายได้เงิน 3,000 บาท ส่วนตุ้มหูไม่ได้ขาย

ก่อนหน้านี้ พ่อ ญาติ และเพื่อน เดินทางไปรับศพเพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดเชียงราย โดยนายนครินทร์ พ่อผู้เสียชีวิตถึงกับร่ำไห้ บอกว่าความรู้สึกตอนนี้คือพูดไม่ออก พอถามว่า อยากจะพูดอะไรกับคนร้ายหรือไม่ พ่อบอกว่า ไม่อยากพูดถึง  ฝากตำรวจเอาตัวไปชดใช้กรรมที่ก่อ ไม่ต้องพามาขอขมา เพราะไม่อโหสิกรรม

ด้านพ่อผู้ก่อเหตุบอกว่า ก่อนที่ลูกชายจะถูกจับ ลูกชายโทรมาหาว่าจะขอมอบตัว ตนจึงบอกลูกไปว่าให้มอบตัวเลย และให้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาไม่ต้องหลบหนีอีกแล้ว

ส่วนแม่ก่อเหตุพนมมือไหว้ขอโทษไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่า รู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่ลูกทำลงไป เข้าใจในคำว่าสูญเสีย

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย