
ภาคแรกระหว่างทั้ง 2 คนเกิดขึ้นในศึก ONE ลุมพินี 97 เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมของเกมในวันนั้นเป็นทางด้าน “ลำน้ำมูลเล็ก ทีเด็ด99” ที่เดินอัดใส่ “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” ตลอดทั้ง 3 ยก แต่ด้วยประสบการณ์การชกมวยไทยนวมเล็กที่น้อยกว่า จึงทำให้เขาพลาดถูก “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” อัดนับในยกที่ 2 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ต้องตกเป็นฝ่ายแพ้ไปแบบหวุดหวิดด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์
หลังผ่านประสบการณ์ชกมวยไทยนวมเล็กมาแล้ว 1 ไฟต์ จึงทำให้ “ลำน้ำมูลเล็ก ทีเด็ด99” รู้ซึ้งเป็นอย่างดีว่าทักษะการใช้หมัดสำคัญขนาดไหนบนเวทีแห่งนี้ จึงได้ไปขอเคล็ดวิชาจากกำปั้นระดับตำนานอย่าง “สมรักษ์ คำสิงห์” ดีกรีอดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2539 โดย “สมรักษ์” อาสามาช่วยติวเข้มทักษะการออกหมัดให้ด้วยตัวเองถึงค่ายมวยทีเด็ด99 ที่ “ลำน้ำมูลเล็ก” ใช้เป็นสถานที่เก็บตัวซ้อม
“หลังจากได้ชกนวมเล็กบนเวทีจริง ๆ มาแล้ว ทำให้ผมรู้เลยว่าทักษะการออกหมัดและการป้องกันตัวนั้นสำคัญมากสำหรับการแข่งขันที่นี่ ซึ่งในการเตรียมความพร้อมครั้งนี้ นอกจากการซ้อมมวยไทยตามปกติแล้ว ผมยังได้ พี่บาส (สมรักษ์ คำสิงห์) เข้ามาช่วยเทรนหมัดชุด และการบล็อกหมัดในสไตล์มวยสากลให้ด้วย”
”ผมมั่นใจเลยว่าภาพรวมการใช้หมัดของผมในไฟต์นี้จะออกมาดีขึ้นแน่นอน และไม่แน่ว่าทุกคนอาจจะได้เห็น พี่บาส ขึ้นมาเป็นพี่เลี้ยงที่มุมให้กับผมด้วยครับ”
นอกจากเป้าหมายสำคัญอย่างการล้างแค้นให้สำเร็จแล้ว “ลำน้ำมูลเล็ก ทีเด็ด99” ยังต้องการเห็น “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” หันมาเปิดเกมบู๊แหลกเหมือนอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกมการชกออกมาสนุกตื่นเต้นสมกับเป็นคู่เอกของรายการ หลังการพบกันในภาคแรกตนต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าทำอยู่ฝ่ายเดียว จนทำให้รูปเกมออกมาไม่ดุเดือดเร้าใจอย่างที่ควรจะเป็น
“ภาคแรกต้องยอมรับว่า ผมยังไม่เห็นจุดอ่อนของ ก้องศึก เลย เพราะพอเขาเสียนับก็ถอยหนีอย่างเดียว จนทำให้ผมไม่รู้ว่าถ้าเขาโดนอาวุธผมจัง ๆ จะเป็นยังไง ส่วนจุดเด่นของเขาคงเป็นเรื่องความเร็วอย่างที่ทุกคนเห็น ซึ่งไฟต์นี้ผมเตรียมอาวุธมาหนักทุกลูกครับ โดยเฉพาะศอกที่เตรียมมาเพื่อบุกเข้าไปเล่นวงในโดยเฉพาะ”
“ล่าสุด ผมได้ยินมาว่า ก้องศึก ให้สัมภาษณ์บอกว่าไฟต์นี้จะชกให้สนุกขึ้น จะบู๊มากขึ้น ผมก็ดีใจนะที่เขาจะมาสู้แบบนั้น เพราะไฟต์ที่แล้วเขาถูกวิจารณ์หนักมากจริง ๆ ก็หวังว่าพอถึงวันชก เขาจะมาเดินบู๊ใส่ผมเหมือนที่พูดเอาไว้นะครับ”
“ผมอยากให้เรามายืนวัดกันไปเลย ให้สมศักดิ์ศรีกับที่เป็นคู่เอกของรายการ พื้นฐานของเรา 2 คนต่างก็เป็นมวยฝีมือเหมือนกัน ดังนั้นไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่แล้ว จะได้วัดกันให้ขาดว่าใครที่สมควรเป็นผู้ชนะจริง ๆ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วนทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. และสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR
ติดตาม ONE Championship และ ONE ลุมพินี ได้ที่ : https://www.ch7.com/one-championship
ช่องทางถ่ายทอดสด
- FACEBOOK : https://www.facebook.com/Ch7HD
- YOUTUBE : https://www.youtube.com/ch7hd
- ช่อง 7HD กด 35
- เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน BUGABOO.TV