ทลายเครือข่ายคอกม้าชักชวนชาวบ้านเปิดบัญชีให้มิจฉาชีพ

View icon 1.0K
วันที่ 22 ก.พ. 2568
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจภูธรภาค 6 เปิดยุทธการทลายเครือข่ายคอกม้า ชักชวนชาวบ้าน กว่า 50 คน เปิดบัญชีม้าให้แก๊งมิจฉาชีพ โดยพาทุกคนข้ามฝั่งไปสแกนใบหน้า ที่ฝั่งปอยเปต

วันนี้ ( 22 ก.พ.68) พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6, พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และสภ.เมืองพิษณุโลก นำกำลังเปิดยุทธการ “ทลายเครือข่ายคอกม้า” กวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดจัดหาคนเปิดบัญชีธนาคารให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ โดยชักชวนคนภายในหมู่บ้านให้มาเปิดบัญชีม้ากว่า 50 ราย และจัดหาคนขับรถ รับ – ส่ง ขนคนไปทำงานสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยได้จับกุม นายวินัย หรือนัย อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ

สืบเนื่องจากตำรวจได้ขยายผล เจ้าของบัญชีม้าและกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์หลอกลวงชาวบ้าน ภายในเขตพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้เปิดบัญชีธนาคาร ก่อนนำไปขายต่อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์ และยังเป็นธุระจัดหาคนขับรถรับ – ส่ง คนไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชากว่า 50 คน ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายวินัย ในข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน ระดมกำลังหลายหน่วยลงพื้นที่ สืบหาที่กบดานของผู้ต้องหาคนดังกล่าว ใช้เวลา 2 วัน จึงทราบว่า ผู้ต้องหากบดานอยู่ในบ้านเช่า ภายในพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงได้นำกำลังทำการบุกเข้าจับกุม นายวินัยฯ  ได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง พื้นที่ ม.5 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก

สอบถามเบื้องต้น ให้การว่า ได้ชักชวนชาวบ้านให้มาเปิดบัญชีม้า และจัดหาคนไปทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บพนันออนไลน์)  ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา  โดยทำมานานกว่า 2 ปี ชักชวนคนในหมู่บ้านเปิดบัญชีธนาคารไปแล้วกว่า 50 คน โดยจะเปิดคนละ 5 – 6 บัญชี และนำพาทุกคนข้ามฝั่งไปทำงานสแกนใบหน้าที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่า ไม่มีผู้ร่วมขบวนการแต่อย่างใด โดยตนได้กระทำการนี้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล ขุดรากถอนโคนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องให้ถึงต้นตอ ต่อไป

จากการสืบค้นประวัติอาชญากรรมของ นายวินัยฯ พบว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติเกี่ยวพันกับยาเสพติด ถูกจับกุมและต้องโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1,800 เม็ด เมื่อปี 2558 ก่อนจะพ้นโทษแล้วผันตัวมาเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าจนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้