เช้านี้ที่หมอชิต - คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไปคลอดลูกแฝดได้ 5 วัน น่าจะเกิดภาวะเครียด ลูกต้องเข้าตู้อบ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดตึก
ภาพจากกล้องวงจรปิดบนชั้น 18 หน้าห้องรักษาโรคธาลัสซีเมีย หรือ โลหิตจาง โรงพยาบาลปทุมธานี บันทึกภาพ นางสาวสายสุนีย์ อายุ 31 ปี เดินไปมาหลังขอพยาบาลว่าจะไปซื้อของ ระหว่างนั้น เธอโทร.ไลน์ไปถามผู้ช่วยดูแลลูกว่าจะลงทางไหนได้บ้าง และไม่นานเธอก็ตัดสินใจจบชีวิต กระโดดลงมาจากชั้น 18 ร่างติดอยู่ที่ชั้น 2 ทำให้ผู้ป่วย ญาติ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างตกใจ ตำรวจไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่เธอกระโดดลงมา พบกรงเหล็กที่ปิดล้อมอาคารชั้น 18 ถูกเปิดออก
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้เสียชีวิตผ่าคลอดลูกฝาแฝดก่อนกำหนด 2 วันถัดมา ลูกฝาแฝดต้องไปรักษาโรคธาลัสซีเมีย หรือ โลหิตจาง ที่ชั้น 18 และเมื่อเช้าวานนี้ (27 ม.ค.) ก็เกิดเหตุสลด คาดว่าเธอมีภาวะเครียดหลังคลอด เพราะต้องดูแลลูกลำพัง
เจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ไปยังบ้านเช่า ในพื้นที่ อำเภอสามโคก ที่ผู้เสียชีวิตอยู่อาศัย รับลูกผู้เสียชีวิต 2 คน อายุ 11 ขวบ และ 6 ขวบ ไปดูแลชั่วคราว
ญาติยืนยันว่าจะรับเด็กทั้งคู่กลับไปดูแลเอง ส่วนลูกแฝด 2 คน ที่อยู่ในความดูแลของแพทย์ ญาติจะหารือกันอีกครั้งว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ส่วนศพจะติดต่อขอรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จังหวัดเพชรบูรณ์ วันนี้ (28 ม.ค.)
น.ส.สุกัญญา โยธะคน เพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้เสียชีวิตและลูกมาเช่าห้องพักแห่งนี้ได้ประมาณ 5-6 เดือน ไม่เคยเห็นสามี เธอเคยเป็น รปภ. ที่ ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพิ่งลาออกเพราะคลอดลูก ช่วง 08.00 น. ผู้เสียชีวิตโทร.มาหาลูก บอกให้แต่งตัวไปโรงเรียน และตัดพ้อกับเธอ เครียดที่ลูกฝาแฝดอาการไม่ค่อยดี เธอได้ปลอบให้ตั้งสติ ไม่คิดว่าผู้เสียชีวิตจะคิดสั้นแบบนี้
โรงพยาบาลปทุมธานี ออกแถลงการณ์ เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้ความร่วมมือ ให้เจ้าหน้าที่ทบทวนมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
