“โค้ชอ๊อต” ดึงนักตบมีแววและส่วนสูง ติวเข้มสร้างนักวอลเลย์บอลหญิงไทย รุ่นใหม่

View icon 294
วันที่ 20 ม.ค. 2568
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“โค้ชอ๊อต” หลังจากกลับมาคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ชุดใหญ่ อีกครั้ง ได้ติวเข้มสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ ดึงนักตบรุ่นเยาว์ โดยดึงนักกีฬาที่มีแววและส่วนสูง มาฝึกทักษะและสร้างร่างกายแบบเข้มข้น

วันนี้ (20 ม.ค. 68) “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หลังกลับมารับงานคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อีกครั้ง โดยตอนนี้ได้มีโปรแกรมติวเข้มสร้างนักกีฬาวอลเลย์บอลรุ่นใหม่ โดยจะคัดเลือกนักกีฬาที่มีแววและมีส่วนสูง มาฝึกทักษะ แบบเข้มข้น

โดยทาง “โค้ชอ๊อต” ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการนี้คือโครงการที่ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ตั้งใจจะสร้างนักวอลเลย์บอลหญิงสายเลือดใหม่ โดยจะพยายามเลือกนักกีฬาที่มีความสูง รูปร่างดี และมีทักษะดีแต่ไม่ถึงกับดีมาก

โดยตอนนี้นักกีฬาส่วนใหญ่ที่มาร่วมฝึกในโครงการนี้มีอายุตั้งแต่ 13-17 ปี ส่วนนักกีฬาชุดทีมชาตไทยชุด U19 และ U21 ยังไม่ได้มาร่วมซ้อม เพราะยังติดภารกิจเล่นให้กับสโมสรต้าสังกัด ซึ่งตอนนี้ได้พยายามคุยกับโค้ชของทุกสโมสรเพื่อจะขอตัวนักีฬามาร่วมซ้อมสัก 1-2 วัน/สัปดาห์ อย่างน้อยให้ทีม U19 และ U21 ได้รวมทีมซ้อมกันบ้าง เพราะจะมีโปรแกรมแข่งขันประมาณเดือนกรกฎาคมปีนี้ หลังลีกจบแล้วคงจะได้ซ้อมต่อเนื่อง

ส่วนการฝึกซ้อมนักกีฬาในโครงการนี้จะปูพื้นฐานของความเข้าใจเทคนิค แท็กติก และที่สำคัญคือร่างกาย เพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการสร้าง โดยเด็กในโครงการนี้ต้องใช้เวลาในการปูพื้นฐานด้านร่างกาย ความทนทานและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพละกำลัง ซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน ตอนนี้ซ้อมไปแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ โดยจะซ้อม 6 วัน/สัปดาห์ เฉลี่ยสัปดาห์ละ 30 ชม. โดย 1 วัน จะซ้อม 2 ช่วงเวลาแบ่งเป็นช่วงเช้าและเย็น

ทางผู้สื่อข่าวถามกับทาง “โค้ชอ๊อต” ว่า การซ้อมโครงการนี้ต่างกับการฝึกขุด 7 เซียน หรือไม่ ซึ่งทาง “โค้ชอ๊อต” เผยว่า ต่างกัน  เนื่องจากตอนฝึกชุด 7 เซียน มันผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว ไม่เหมือนกับเด็ก ๆ ณ ปัจจุบันที่มีทักษะที่ดีขึ้นตามกาลเวลา แต่ชุด 7 เซียนนั้นใช้เวลาซ้อมด้วยกันมานานถึง 4 ปี แต่เด็กปัจจุบันไม่มีเวลาซ้อมกันนานเนื่องจากมีโปรแกรมแข่งขันเยอะ ทั้งนี้ก็เป็นห่วงว่านักกีฬาจะมรอาการบาดเจ็บ

ทั้งนี้ “โค้ชอ๊อต” เผยว่า ต้องให้เวลานักกีฬาทุกคนในการฝึกซ้อมเพื่อขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ เพราถ้านักกีฬาได้มาฝึกซ้อมเรื่อย ๆ ก็จะเป็นผลดีกับนักกีฬา และในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ เราจะได้รู้กันว่าจะมีนักกีฬาจากทีมชุด U16 U19 และ U21 จะมีใครพอจะสอดแทรกขึ้นไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้บ้าง