เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าจับกุม พ่อ-ลูก ต่อย ร.ต.อ. ชุดปราบยาเสพติด ปากแตกแล้วหลบหนีการจับกุม ทางลูกถูกรวบคาบ้าน ส่วนพ่อวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ก็หดมแรงก่อน โดนแจ้งข้อหาเพิ่มอ่วมทั้งสองคน
วันนี้ (17 ธ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สะเดา, ทหาร ฉก.ร.5 ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4304, ชุดสืบสวน ภาค 9 และตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา, พ.ต.ท.ปิยวุฒิ พงศ์ไพบูลย์ รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา, และ พ.ต.ต.จิรวัฒน์ สุวรรณมณี สว.สส.สภ.สะเดา เข้าตรวจค้น และจับกุมพ่อ-ลูก ที่บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่ 4 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ซึ่งออกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ใน 2 ข้อหา คือ “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยการใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธ และร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.สะเดา ได้เข้าจับกุมตัวทั้งพ่อ-ลูก ทางผู้เป็นพ่อได้ต่อยถูกตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอก นายหนึ่ง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด จนปากแตก แล้วทั้งคู่ก็พากันหลบหนีไป
โดยวันนี้ (17 ธ.ค. 67) การเข้าตรวจค้นที่แรกได้จับกุม นายอดิศัย อายุ 32 ปี (ลูก) ได้ขณะอยู่ในบ้านพัก และยังมีหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ติดตัวด้วย ซึ่งถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และตอนเข้าจับกุมยังพบไอซ์ในตัวอีกจำนวนหนึ่ง จึงคุมตัวเอาไว้
ส่วน นายอรุณ อายุ 54 ปี (พ่อ) ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้านนั้นผู้ต้องหาไม่อยู่ ทางชุดจับจึงซ้อนแผนตลบหลังทำทีถอนกำลังออกไป และย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง ก็พบตัว นายอรุณ ยืนอยู่หน้าบ้าน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในชายป่าหลังบ้าน พร้อมกับมีดกรีดยาง เจ้าหน้าที่จึงวิ่งติดตามไป และตะโกนเรียกให้หยุด และมอบตัวแต่โดยดี แต่นายอรุณไม่ยอม หยุด และไปหมดแรงยืนหอบ หลังจากที่วิ่งหนีมาประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ว่านายอรุณก็ยังไม่ยอมให้จับและใช้มีดกรีดยางแกว่งไปมา สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนมอบตัว และคุมตัวกลับไปตรวจค้นที่้บ้านพัก
จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 3 นัด และนกปรอทหัวโขนอีก 10 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงยึดเอาไว้เป็นของกลาง และแจ้งข้อหาเพิ่มเติม 2 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง (นกปรอทหัวโขน) โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 แล้วจึงคุมตัวทั้งพ่อ-ลูก ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินคดีต่อไป ขณะที่ถูกคุมตัวผู้เป็นพ่อยังขู่นักข่าวว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ให้ดี
