ความเคลื่อนไหว บิ๊กต่อ ว่าที่ ผบ.ตร. ยัน ไม่กังวลอะไร

View icon 77
วันที่ 28 ก.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติแต่งตั้ง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 โดยมีมติ 9 ต่อ 1

ความเคลื่อนไหว บิ๊กต่อ ว่าที่ ผบ.ตร. ยัน ไม่กังวลอะไร
ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 10/2566 ในวาระสำคัญ การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ แทนที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยที่ประชุม ก.ตร. เสนอให้แต่งตั้ง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากที่ประชุม ก.ตร. ที่มีทั้งหมด 12 เสียง โดยมีมติ 9 ต่อ 1 เห็นชอบ 9 ไม่เห็นชอบ 1 และงดออกเสียง 2 ในจำนวนนี้ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. งดออกเสียง ส่วนอีกเสียงคือ พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ออกเสียงไม่เห็นชอบ

โดยทันทีที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ประเดิมงานแรก นำกำลังบุกจับยาเสพติดล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 300 ล้าน ที่บ้านพักกลางเมืองนครปฐม สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายได้ทั้งหมด 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดประเภทแฮปปี้วอเตอร์และยาไฟว์ไฟว์ อีกจำนวนมาก

พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมตรวจสอบ โดยทางตำรวจ 191 ได้ทำการแกะรอยขยายผลจากกลุ่มเครือข่ายที่ถูกจับกุมก่อนหน้า จนพบความเชื่อมโยงมาถึงกลุ่มผู้ต้องหา โดยใช้เวลาในการแกะรอยติดตามฟอกพฤติกรรมมานานกว่า 2 ปี โดยของกลางที่ตรวจยึดได้มีมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่มีการจับกุม ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำนโยบายปราบยาเสพติดและการท่องเที่ยว โดยหลังจากนี้จะทำการขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายต่อไป

ขณะที่เมื่อเช้านี้ ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ว่า ขอเรื่องแต่งตั้งเอาไว้ก่อน ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ เมื่อถามว่า สบายใจขึ้นหรือไม่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องกังวลอะไรเลย

บิ๊กต่อ แถลงจับยาเสพติดล็อตใหญ่
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 แถลงผลทลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

โดยการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของกลุ่มนายอภิชาติ กับพวก 3 คน มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถยนต์จำนวนหลายคันสลับสับเปลี่ยนตระเวนส่งยาให้กับลูกค้า บริเวณถนนบรมราชชนนี พื้นที่พุทธมณฑลสาย 5

เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเช่าบ้านไว้เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติดในพื้นที่ตำบลลําพญา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นล็อตใหญ่ที่สุด และยืนยันว่าไม่ใช่การจัดฉากหลังได้รับแต่งตั้งเป็นว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด แต่เป็นการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

ส่วนเหตุผลที่ยาเสพติดล็อตนี้มีจำนวนมาก เพราะกลุ่มผู้ต้องหามีการนำยาเสพติดทั้งหมดมาเก็บรวมไว้ที่บ้านหลังนี้ เพื่อเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ โดยยาเสพติดส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งใช้เวลาสืบสวนแกะรอยนานกว่า 2 ปี ถือว่าเป็นเครือข่ายรายใหญ่ โดยหลังจากนี้จะมีการขยายผลเพิ่มเติม และเดินหน้าปราบปรามทลายขบวนการเหล่านี้ให้หมดไป

พล.ต.อ.เอก โพสต์เปิดเบื้องหลังเลือก ผบ.ตร. คนที่ 14
ด้าน พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ออกเสียงไม่เห็นชอบ ได้เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า "ผมได้ทำหน้าที่ ด้วยการอภิปรายแสดงความคิดเห็นถึงบริบทกฎหมายการแต่งตั้งตำรวจ เริ่มตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด

พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฎิรูปตำรวจ) ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ การแต่งตั้งคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ

ผมได้โหวตไม่เห็นด้วยเป็นเสียงข้างน้อย ด้วยเหตุผลที่ได้ขอบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่า "การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้"

ผมขอยืนยัน ได้แสดงความคิดเห็นด้วยบริสุทธิ์ใจ ใช้วิจารณญาณและดุลพินิจ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด เพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจและประเทศชาติบ้านเมือง ขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ผมเคารพอย่างยิ่ง ที่ได้กรุณาเข้าใจในการโหวตของผม ขอบพระคุณอดีตผู้บังคับบัญชา และทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและให้กำลังใจ

เศรษฐา ยันตั้ง ผบ.ตร.ด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา ถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ว่ามีความสบายใจแล้วหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ขอให้โปรดเกล้าฯ ก่อน ทุกอย่างที่เสร็จสิ้นไปแล้วก็มีความสบายใจ

ส่วนเหตุผลที่ไม่รอผลการตรวจสอบกรณีของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาลเพราะเป็น 1 ในแคนดิเดตที่จะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้วยนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องนี้รอให้มีการโปรดเกล้าฯ มา จบแล้วจะมีคณะกรรมการและมีโฆษกเป็นผู้แถลงชี้แจง ทั้งนี้ ยืนยันในเรื่องข้อกฎหมายนั้นเป็นไปอย่างเรียบร้อย ส่วนกรณีที่ พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ โหวตไม่เห็นชอบให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่เหมาะสมที่จะเอาเรื่องในห้องประชุมมาพูด

เมื่อถามถึงกรณีที่อาจจะมีการฟ้องร้องกันภายหลังได้ นายเศรษฐายืนยันว่าไม่กังวล เนื่องจากทำด้วยเจตนารมณ์บริสุทธิ์ ไม่ได้ลุด้วยอำนาจ และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในที่ประชุม ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับแคนดิเดตทุกคน

วิโรจน์ แฉทุจริตสหกรณ์ตำรวจ
เก้าอี้ "ผบ.ตร." ร้อน ตำรวจชั้นประทวนใกล้เกษียณ ร่วมส่งเอกสารให้พรรคก้าวไกล ช่วยตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดลำพูน ทำหนี้งอก มีกู้เพิ่ม ปลอมแปลงเอกสาร โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ก้าวไกล แถลงจากกรณีที่มีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ จึงอยากให้ตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพและสวัสดิการของตำรวจชั้นประทวน จังหวัดลำพูน ความเสียหายจากสหกรณ์ออมทรัพย์ กว่า 200 ล้านบาท จากสมาชิกกว่า 423 นาย อาทิ ตำรวจบางคนหนี้เพิ่มมากขึ้นและบางคนไม่เคยกู้ก็กลายเป็นผู้กู้ และตำรวจอีกหลายคนอยู่วัยใกล้เกษียณ จึงมีการนำหลักฐานมาให้พรรคก้าวไกล เพื่อติดตามดำเนินคดี

ซึ่งทางพรรคก้าวไกลจะนำหลักฐานชุดแรก ส่งให้ประธานสภาฯ เพื่อส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติติดตาม ส่งรายละเอียดหลักฐานดังกล่าวให้กับคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ อยากจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจทั่วประเทศ

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Aek Angsananont