"ช่อ-จตุพร" เห็นตรง พท.- ก.ก. แยกทางอำนาจต่อรองไม่เท่าเดิม ถ้าไม่เอาพรรค 2 ลุง สว.ไม่โหวตให้ ปรี๊ด "เสรีพิศุทธ์" ทวงบุญคุณ ลั่นน้ำเน่าเกินไปหรือเปล่า ผัวบอกเลิก เมียเก่าต้องตามไปปูที่นอนให้ผัวกับเมียใหม่
รายการถกไม่เถียง “ตัวตึงอ่านไต๋ดักคอ” วันนี้ (3 ส.ค.66) ช่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพรรคเสรีรวมไทย ขอให้ก้าวไกลตอบแทนบุญคุณพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า การเมืองไม่ใช่เล่นขายของ เสียงของประชาชนแลกเปลี่ยนกันไม่ได้ การเสียสละต้องใช้กับของๆ เรา ที่เรายอมเสียไปได้ แต่เสียงของประชาชนนั้นทำให้ สส. เป็นหนี้บุญคุณประชาชน 14 ล้านเสียง จะเสียสละยกใส่พานถวายให้คนอื่นไม่ได้ นักการเมืองต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชน ก้าวไกลต้องตอบแทนประชาชน ไม่ใช่ตอบแทนเพื่อไทยอย่างที่มาทวงบุญคุณกัน
ช่อพรรณิการ์ ระบุว่า ตนไม่มีสิทธิไปประชุมกับ สส.ก้าวไกล ยังไม่มีใครมีความเห็นไปในทางที่ต้องโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน ตอนหาเสียงนายเศรษฐาเป็นคนหนึ่งที่พูดเรื่อง ม.112 ความรู้สึกส่วนตัวระหว่าง สส.ก้าวไกลกับนายเศรษฐาไม่มีอย่างแน่นอน แต่การโหวตครั้งนี้ไม่ใช่โหวตเพื่อปิดสวิตช์ สว. แต่เป็นการโหวตปิดสวิตซ์ก้าวไกล มันน้ำเน่าเกินไปหรือเปล่า ผัวบอกเลิกไปแล้วเมียต้องไปปูที่นอนให้ผัวกับเมียใหม่
ส่วนประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนพิจารณารับ-ไม่รับปมเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ ครั้งที่ 2 “ช่อ พรรณิการ์” มองว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการนัดประชุมโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.66 แต่เป็นข้ออ้างให้เป็นระฆังช่วยชีวิต ในช่วงเช้าวานนี้ (2 ส.ค.66) ก่อนที่นายชัยธวัช ตุลาธร เลขาธิการพรรคก้าวไกล จะไปประชุมกับพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัชยังเชื่อว่าเพื่อไทยจะเลื่อนการประชุมร่วม 8 พรรคออกไป ไม่คิดว่าทุกอย่างจะจบเกมเร็ว แต่พรรคเพื่อไทยรีบถึงขนาดไม่ให้ 8 พรรคมาคุย ใช้วิธีโทรศัพท์แจ้ง เพราะรีบที่จะเปิดตัวพรรคร่วมฯ ใหม่ เพื่อจบเกมในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.66
“การข้ามขั้วไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่การเลื่อนวันที่ 3 -4 ส.ค. เป็นอุบัติเหตุ ไม่ลงตัวทุกเรื่อง ขนาดมี 312 เสียง ยังไม่ลงตัว แล้วในวันที่เหลือ 142 เสียง จะถูกกดขนาดไหน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นอยู่กับ สว.และพรรค 2 ลุง ซึ่งเขาคงไม่หวังแต่ร่วมรัฐบาล เป็นตัวดิฉันก็หวังเป็นนายกฯ“ ช่อ พรรณิการ์ ระบุ
ช่อ พรรณิการ์ บอกด้วยว่า เท่าที่ได้รับฟังจากเพื่อน สส. การพูดคุยของคณะเจรจาจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่อง ม.112 แต่เขาใช้คำว่าผู้มีอำนาจไม่ต้องการก้าวไกล ตนจึงย้ำว่า ม.112 เป็นข้ออ้างใช้กีดกันก้าวไกล ไม่ให้เข้ามาเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 แค่ไม่โหวตให้กฎหมายก็ตกแล้ว นอกจากนี้ ยังมองว่า โอกาสยังมีจนกว่าจะถึงวันโหวตนายกฯ ตนยังเชื่อมั่นว่าก้าวไกล-เพื่อไทย เป็นส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย และไม่ต้องรอนานถึง 10 เดือน แรงกดดันของภาคธุรกิจและเจ้าสัว จะส่งเสียง เพราะ 312 เสียง เสถียรภาพมั่นคงที่สุด แรงกดดันจะตกไปอยู่กับ สว.
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประเทศไทย กล่าวว่า การประกาศแยกทางเพื่อไทย-ก้าวไกล เหมือนประกาศฆ่าตัวตายถ่ายทอดสด การเลื่อนทั้งระบบ ทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญและรัฐสภาไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นเพราะแต่งตัวตั้งรัฐบาลยังไม่สำเร็จ ตัวเลข 250 นิดๆ ต้องใช้เสียง สว. มากกว่า 110 เสียง เพื่อไทยจะเจอปรากฎการณ์เดียวกับก้าวไกล คือ เคยบอกว่าจะโหวตให้ 80 เสียง เพราะเรื่อง ม.112 นายเศรษฐาและอุ๊งอิ๊ง (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) พูดไว้ไม่ต่างกัน ถ้าไม่เอา รทสช.-พปชร. ไม่เอา 2 พรรคนี้ สว. ก็ไม่มา พรรคเพื่อไทยแยกจากพรรคก้าวไกล อำนาจต่อรองมีไม่เท่าเดิม มีเรื่องราวที่จะถูกกดอีกมากมาย อีกทั้งการตระบัดสัตย์ทำให้เสียประชาชน
