สนามข่าว 7 สี - วันนี้ 8 พรรคที่จับมือกันตั้งรัฐบาล จะประชุมเป็นครั้งที่ 3 เพื่อติดตามความคืบหน้าในการกำหนดนโยบาย หลังมีการตั้งคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยกำหนดประเด็นพูดคุยในเรื่องพลังงาน และปากท้องประชาชน ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มว่า กกต. อาจประกาศรับรอง สส.ทั้งสองระบบภายในเดือนนี้
วงหารือของ 8 พรรคการเมืองวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะเปิดที่ทำการพรรคให้แกนนำ 8 พรรค ตั้งโต๊ะหารือ เน้นหนักไปที่การพูดคุยของทีมเปลี่ยนผ่านรัฐบาล และการติดตามความคืบหน้าของคณะทำงาน 7 คณะ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ และเตรียมจะตั้งคณะทำงานด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อให้ครอบคลุมทุกปัญหาที่ต้องแก้ไขให้กับประชาชน
ขณะที่แกนนำทั้งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล พูดตรงกันว่า วงหารือวันนี้ จะติดตามการทำงานในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน และเรื่องที่ประชาชนคาดหวัง ต่อยอดไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล แต่ยืนยันว่ายังไม่พูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ และโควตารัฐมนตรี
ไฮไลต์อีกอย่างที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ คือ การเข้าพบคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ของว่าที่ สส. พรรคก้าวไกล ทั้ง 32 คน ซึ่งคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรค จะนำทีมร่วมวงหารือ ผสานการทำงานร่วมกัน ระหว่างการเมืองระดับชาติ กับระดับท้องถิ่น โดยเบื้องต้นมีนโยบายที่ตรงกันระหว่างผู้ว่าฯ ชัชชาติ กับภาค กทม. คือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และสิทธิของคน กทม. แต่ที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอเพิ่มอาจเป็นเรื่องใหม่ ที่ต้องหารือกันอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งผู้อำนวยการเขต ที่พรรคก้าวไกลมองว่าจะขจัดปัญหาการเอื้อประโยชน์พวกพ้องได้
ส่วนเรื่องของการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ตอนนี้ก็ลุ้นกันเยอะว่า ที่ประธาน กกต. บอกจะประกาศรับรองได้ก่อนสมัยปี 2562 นั้น จะทำได้เร็วขึ้นแค่ไหน มาย้อนดูกันหน่อยว่าในการรับรอง สส. ปี 2562 กกต.เขาใช้เวลาไปเท่าไหร่ เริ่มจากเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม หลังจากนั้น 7 พฤษภาคม มีการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง สส. 349 เขต ซึ่งตอนนั้นเรามี สส.เขต ได้ 350 คน เรียกว่ารับรองเกือบหมด ขาดไปแค่คนเดียวเท่านั้นเอง ถัดมาอีกวันหนึ่งคือวันที่ 8 พฤษภาคม ก็มีการประกาศรับรอง สส.บัญชีรายชื่อ 149 คน จากทั้งหมด 150 คน หลังการประกาศรับรอง สส. ทั้งสองระบบไปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็มีรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรก ในวันที่ 24 พฤษภาคม และวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 25 พฤษภาคม ก็มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะทำหน้าที่ประธานรัฐสภาด้วย จากนั้น 5 มิถุนายน ก็มีการเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีของพรรคการเมือง เบ็ดเสร็จใช้เวลาเกือบ 1 เดือน หลังการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง กว่าจะได้นายกรัฐมนตรี และ กกต. ใช้เวลาตรวจสอบผลเลือกตั้ง สส.ทั้งสองระบบ นับจากวันเลือกตั้ง 45 วัน
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เดิมมีการคาดการณ์จากอาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แบบที่คิดว่า กกต. จะใช้เวลาเต็มเพดาน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งจะต้องไม่เกิน 13 กรกฎาคม จึงคาดว่า 24 กรกฎาคม อาจจะมีการปะชุมรัฐสภานัดแรก ก่อนที่จะประชุมสภาฯในวันที่ 25 กรกฎาคม เพื่อเลือกประธานสภาฯ
แต่ถ้าขยับรับรอง สส. เร็วขึ้น ไทม์ไลน์ทุกอย่างก็จะขยับเข้ามา ทีมข่าวของเราสอบถามไปยังแหล่งข่าวใน กกต. ได้รับคำยืนยันว่า การรับรองผล สส. ทั้งสองระบบน่าจะเกิดขึ้นได้ภายในกลางเดือนนี้ หรือเลยไปไม่มาก ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ เราน่าจะได้เห็นการประชุมรัฐสภาครั้งแรกต้นเดือนกรกฎาคม และการเลือกนายกรัฐมนตรีก็น่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางเดือนเดียวกัน เรียกว่าไทม์ไลน์น่าจะขยับเข้ามาสัก 2 สัปดาห์
