ทลายแหล่งเงินกู้นอกระบบทั่วประเทศ

View icon 321
วันที่ 2 มิ.ย. 2566
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจปูพรมกวาดล้างแก๊งเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูง ของเครือข่ายบังโก้ 10 จังหวัด 14 หมายจับ พบคิดดอกเบี้ยร้อยละ 340 ต่อปี และยึดโฉนด ทรัพย์สิน ของลูกหนี้ โดยมีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 600 ล้านบาท

ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกระจายกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 หมายจับ ควบคุมผู้ต้องหา 12 คน ซึ่งเป็นสายปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดให้กับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี สงขลา และจังหวัดกาญจนบุรี 

ของเครือข่ายของบังโก้ ดูไบ ดันทะลุเพดาน นายทุนใหญ่ ที่มีการเก็บอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 หรือ ร้อยละ 340 ต่อปี และยังมีพฤติกรรมยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กู้ทั้งโฉนดที่ดินบ้านและรถยนต์ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

สำหรับของกลางที่ตำรวจ ตรวจยึดประกอบด้วย สมุดบัญชีเงินฝาก 5 เล่ม คอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 3 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องซิมการ์ด 4 ซิม นามบัตร 1,000 ใบ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสมุดรายชื่อลูกหนี้ 50 เล่ม

ปฏิบัติการปราบปรามเงินกู้นอกระบบ เคยมีการกวาดล้างอย่างจริงจังเมื่อสี่ปีที่แล้ว ทำให้กลุ่มขบวนการรถน้อยจนถอยลงไป และประชาชนเริ่มหันมากู้เงินในระบบแทน แต่หลังจากโควิด-19 ระบาด กลุ่มขบวนการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง

ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า พฤติการณ์คนแก๊งนี้ จะเข้าไปตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ ตลาดนัด หรือร้านค้า และทิ้งนามบัตรในการติดต่อขอกู้เงิน เพื่อชักชวนให้ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 340 ต่อปี