เจาะประเด็นข่าว 7HD - ไปตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดทางภาคเหนือ กันบ้าง ต้องบอกว่าวันนี้ยังวิกฤตหนัก ค่า PM2.5 อยู่ในเกณฑ์สีแดงถึง 11 จังหวัด เนื่องจากยังควบคุมการลักลอบเผาป่าไม่ได้
สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ วันนี้มีแนวโน้มลดลง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและสารสนเทศ หรือ จิสด้า รายงานพบฮอตสปอตจากไฟป่าใน 17 จังหวัดภาคเหนือ 569 จุด โดยเฉพาะที่จังหวัด มากถึง 13 จุด ท้องฟ้ายังถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากไฟป่าที่หนาแน่น และค่า PM2.5 ยังสูง เนื่องจากการสะสมของฝุ่นควันในพื้นที่แอ่งกะทะ อีกทั้งยังไม่มีกระแสลมมาช่วยระบายออก
ทำให้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ประชาชนต้องสัมผัส และสูดดมละอองฝุ่นจำนวนมาก หลายคนเริ่มหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำให้เปิดแผนปฏิบัติการดับไฟ ลดฝุ่น โดยทำแนวกันไฟให้มากที่สุด ป้องปรามการเผาทุกพื้นที่ ส่วนไฟที่ลุกลามเป็นวงกว้าง ให้ระดมกำลังคน รถน้ำ และเฮลิคอปเตอร์ มาดับให้เร็วที่สุด รวมถึงเฝ้าติดตามความชื้นในอากาศ ในการเร่งทำฝนหลวงทันที
ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังพบจุดความร้อนมากที่สุดทางภาคเหนือ 127 จุด เนื่องจากยังพบว่ามีการลักลอบเผาป่าในพื้นที่อำเภอปาย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จึงทำให้คุรภาพอากาศยังวิกฤตหนัก โดยเฉพาะที่อำเภอปาย วันนี้ค่า PM2.5 พุ่งสูงสุดทางภาคเหนือ 187 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างหนัก
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก อำเภอปาย ได้นำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดหมอกควันในชั้นอากาศ และผลกระทบด้านสุขภาพกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวนอกจากนี้ยังจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น ณ ที่ว่าการอำเภอปาย เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ด้วย
และที่จังหวัดเชียงราย ยังมีไฟป่าหลายจุด บริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปควบคุม แต่บางจุดยังดับไม่ได้ ในขณะที่ฝั่งประเทศเมียนมา ก็มีไฟป่าเช่นกัน ทำให้หมอกควันไฟป่าฟุ้งกระจาย
ส่งผลให้ในตัวเมืองแม่สาย เต็มไปด้วยหมอกควัน และค่า PM2.5 สูงสุดในรอบ 7 วัน โดยวัดได้ 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จำเป็นต้องออกสู่ที่โล่งแจ้ง ต่างพากันสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตนเองไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย
