ศาลแขวงพระนครเหนือ สั่งปรับ 2.6 ล้านบาท นอท กองสลากพลัส ขายสลากฯ เกินราคา เจ้าตัว เผย รับสารภาพให้คดีจบๆ เหตุเป็นคดีเก่า เคยถูกตร.ปรับแล้ว สงสัยทำไมรื้อคดีมาทำอีก
จากกรณีพนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 นำสำนวนพร้อมนำตัว นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส และผู้บริหารบริษัทลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล รวม 3 คน ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ 2 ข้อหา คือ ร่วมกันเสนอขายและจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด และข้อหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
ล่าสุดวันนี้ (10 มี.ค.66) นอท-พันธ์ธวัช ออกมาเปิดเผยว่า ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากตั้งแต่ 1 เม.ย.64 ขณะนั้นยอมรับว่าขายสลากในรูปแบบเก่าโดยไม่ได้คิดบริการแยกออกจากค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงตัดสินใจรับสารภาพ ถูกศาลพิจารณาสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 2,672,000 บาท จาก 510 กรรม โดยให้เหตุผลว่ายอมรับให้คดีจบๆ ไป ไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาศาลบ่อย ส่วนคดีที่สำนักงานกินแบ่งรัฐบาลฟ้องดำเนินคดีกับตัวเอง ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นการฟ้องคนละส่วนกัน เนื่องจากช่วงเวลาในคำฟ้องได้คิดค่าบริการรูปแบบใหม่ แยกออกจากค่าสลากฯ จึงยังต่อสู้คดีนี้นั้นอยู่
ส่วนสำนวนคดีของตำรวจที่สั่งฟ้องตัวเองในครั้งนี้ นอท เผยว่า เป็นคดีเก่าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นแล้วเมื่อปี 2564 แต่กลับนำมารวบรวมในพยานหลักฐานใหม่ โดยไปไล่เคาะประตูบ้านลูกค้านำมาเป็นพยาน 384 คน จาก 4,000 กว่ารายการ ในส่วนของการจะเปิดแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ใหม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้อยู่ระหว่างต่อสู้ในหลายๆ คดีที่ตัวเองถูกสั่งฟ้อง
ต่อมา นอท-พันธ์ธวัช ได้โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า คดีที่ตัดสินวันนี้ คือคดีที่ตำรวจไปเคาะประตูบ้านลูกค้า 4,200 คดีทั่วประเทศ แต่มีลูกค้าตนให้ปากคำเพียง 300 กว่าคน ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.64 ซึ่งผ่านมาจะหมดอายุความแล้วในวันที่ 24 มี.ค.นี้แล้ว ตอนนั้นตนขายสลากแบบมีค่าบริการ แต่เรารวมค่าบริการเข้าไปเลยโดยไม่ได้แจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งเราเคยโดนจับและปรับมาแล้ว 1 ครั้ง โดยตำรวจปรับกรรมละ 5,000 บาท รวม 250,000 บาท
ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไรตำรวจถึงไปรื้อเรื่องนี้มาทำอีก ทั้งๆ ที่ไม่มีเจ้าทุกข์ และการสอบสวนก็ไม่รัดกุมเรียบร้อย คดีนี้ถ้าตนจะสู้คงสู้ได้ แต่หลังจากที่คิดดูแล้ว คดีนี้ไม่ได้มีผลต่อคดีอื่นๆ ที่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ากองสลากพลัสไม่ได้ทำผิด จึงตัดสินใจรับสารภาพเพื่อให้จบเรื่องนี้ไป จะได้มีเวลาไปทำคดีอื่นๆ ที่จำเป็น โดยศาลสั่งปรับผมเป็นจำนวนเงิน 2,672,000 บาท คดีนี้ใช้เวลาทำเพียง 1 เดือนกับ 10 วัน
