ดำเนินคดี “มูลนิธิเป็นต่อ” กรมการปกครองเอาผิดเจ้าของมูลนิธิ แจ้ง 3 ข้อหา

View icon 374
วันที่ 13 ก.พ. 2566
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดำเนินคดี “มูลนิธิเป็นต่อ” กรมการปกครองเอาผิดเจ้าของมูลนิธิ 3 ข้อหา ไม่จดทะเบียนตั้งมูลนิธิ ผิดกฎหมายควบคุมการเรี่ยไร นำเข้าข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์  สั่งการทุกอำเภอตรวจสอบมูลนิธิบังหน้าธุรกิจผิดกฎหมาย

ภายหลัง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยว่ากระทรวงมหาดไทยตรวจสอบพบว่ามูลนิธิเป็นต่อ ไม่ได้จดทะเบียบจัดตั้งเป็นมูลนิธิ โดยนายชูวิทย์แฉว่ามูลนิธิเป็นต่อ (ของเก๊) อีกแล้ว และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินธุรกิจสีเทา

ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นิติกรกรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับจดทะเบียนมูลนิธิ ไปแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของ มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป หลังพบว่า ไม่ได้มีการจดแจ้งขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ

นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยถึงกรณีเว็บพนันออนไลน์ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับมูลนิธิเป็นต่อ กรมการปกครองในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการรับจดทะเบียนมูลนิธิได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในฐานข้อมูล ไม่ปรากฏการจดทะเบียนมูลนิธิในชื่อดังกล่าว และจากการลงพื้นที่สืบสวน พบผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในเครือเป็นต่อกรุ๊ปยอมรับว่า มูลนิธิ เป็นต่อกรุ๊ป ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิแต่อย่างใด เป็นเพียงการรวมกลุ่มกันของผู้บริหารที่รู้จักสนิทสนมกันในหลายบริษัท

จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานที่ตั้งมูลนิธิภายในรามอินทราซอย 5 แยก 15 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ก็พบว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิแต่อย่างใด มีเพียงพนักงานบริษัทอื่นที่อยู่ในอาคารเดียวกัน การดำเนินกิจกรรมต่างๆ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณชนของมูลนิธินี้เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย พนักงานฝ่ายปกครอง ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ มูลนิธิ เป็นต่อ ใน 3 ความผิดฐาน คือ

1 พ.ร.บ.กำหนด ความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499 ใช้คำว่ามูลนิธิประกอบกับชื่อในดวงตาและเอกสารอื่นเกี่ยวกับธุรกิจ โดย ที่มิได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
2 พ.ร.บ. ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตร 8 ประกอบมาตรา 17
3 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

นายรัฐวิช เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแสข่าวกลุ่มทุนจีนสีเทาเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย กรมการปกครองได้สั่งการให้ทุกอำเภอตรวจสอบมูลนิธิต่างๆ ที่อาจเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทา ว่ามีการขออนุญาตก่อตั้งมูลนิธิ เพื่อบังหน้าธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งมูลนิธิที่มีการก่อตั้งแล้วไม่ได้มีกิจกรรม หรือมีการดำเนินการใดๆ ด้วย