ตะวัน - แบม ทรุดหนัก เสี่ยงมีภาวะช็อก

แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - กรณีของ "ตะวัน" และ "แบม" นักกิจกรรมอิสระ ที่ขออดอาหารประท้วงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมืองทุกราย เมื่อวานนี้ทนายความ และผู้ปกครองของทั้งสองคน ก็ออกมาเปิดเผยถึงการตัดสินใจของ ตะวันและแบม ที่ยืนยันจะอดอาหารต่อไป

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ พร้อมพ่อแม่ของ นางสาวทานตะวัน หรือ "ตะวัน" และ นางสาวอรวรรณ หรือ "แบม" เดินทางไปเยี่ยมดูอาการป่วยของทั้งสองคน ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ก่อนออกมาเปิดเผยถึงเรื่องที่เคยตัดสินใจ จะยกระดับการเรียกร้องด้วยการ "อดอาหารและน้ำ" และปฏิเสธการรักษาว่า ได้ขออนุญาตเพื่อเข้าเยี่ยมในวันหยุด แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งจาก ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงได้แต่เพียงสอบถามอาการกับทีมแพทย์ที่ดูแล พบว่าทั้งสองคนอยู่ในภาวะอ่อนเพลียรุนแรง มีค่าคีโตนสูง และน้ำตาลในเลือดต่ำ เสี่ยงต่อการสู่ภาวะช็อกได้ง่าย จึงขอให้แพทย์หมั่นเข้าตรวจดูอาการทุก ๆ 1 ชั่วโมง ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเตรียมให้ความช่วยเหลือทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ยืนยันการตอบสนองของทั้งคู่ยังปกติ แต่ช้าลง ซึ่งทั้งสองยังยืนยันที่จะอดอาหารต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาคดีการเมืองที่ยังไม่ตัดสินว่ามีความผิด รวม 14 คน

ด้าน พระราชธรรมนิเทศ หรือ พยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก็ได้ออกมาขอบิณฑบาตชีวิตทั้ง 2 คน กับทางผู้ใหญ่ ให้ช่วยถนอมชีวิตของเด็ก ๆ เหล่านี้ด้วย อย่าปล่อยเขาไปตามยถากรรม พร้อมทั้งแสดงความคิดว่า ระหว่างอุดมการณ์กับชีวิตที่น้อง 2 คนกำลังทำอยู่ ควรจะหาวิธีการต่อสู้ใหม่เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าเคยทดลองมาแล้วว่าการอดอาหารไม่ได้ช่วยให้บรรลุ ท่านจึงเปลี่ยนความคิดกลับมาเสวยพระกระยาหารตามเดิม เพื่อให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง จากนั้นก็ตั้งใจเดินหน้าใหม่จนประสบความสำเร็จ ถ้าทั้ง 2 คน ยอมถอยออกมาเสียหน่อย เพื่อที่จะก้าวต่อไปใหม่ ก็ยังมีโอกาสที่จะได้เห็นหน้าพ่อแม่ ครอบครัวและเพื่อนต่อ แต่ถ้าจะแต่เดินหน้าต่อมันก็กลายเป็นว่า อุดมคติกัดกินชีวิต กัดกินร่างกายให้หมดสภาพลงก่อนประสบความสำเร็จ

สำหรับกรณีที่มีการอ้างเรื่องที่ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม ก็มีการชี้แจงจาก "กรมราชทัณฑ์" ว่า เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เนื่องจากการเข้าเยี่ยมผู้ที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ มีระเบียบที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ในวัน-เวลาราชการตามปกติ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ผู้ที่มีรายชื่อเข้าเยี่ยม สามารถเข้าเยี่ยมได้ตามปกติ ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมเป็นต้นมา ก็ไม่เคยมีรายชื่อของญาติ หรือทนายความ เข้าเยี่ยมในวันหยุด จึงเป็นที่ทราบดีว่าไม่สามารถเข้าเยี่ยมในวันดังกล่าวได้