รมว.ท่องเที่ยวฯ แจง นทท.ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายไทย แต่การพบนักท่องเที่ยวสูบ ตร.ไม่สามารถจับปรับ ต้องนำส่งศาลอย่างเดียว กรณีนำขบวน นทท.จีน ทำโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาตต้นสังกัด
วันนี้ (31 ม.ค.66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่างถึงกรณีตำรวจให้บริการนำขบวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ในช่องทางพิเศษที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และมีรถนำขบวน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพียง 2 คน ที่ไปกระทำโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาตจากต้นสังกัด ทั้งนี้ การที่ตำรวจท่องเที่ยวจะให้บริการกับนักท่องเที่ยว สามารถทำได้ 4-5 กลุ่ม เช่น เป็นแขกของรัฐบาล เป็นบุคคลสำคัญที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เป็นผู้นำรัฐบาลที่เข้ามาเป็นส่วนตัว เป็นราชวงศ์ของประเทศต่างๆ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย หรือนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือกลุ่มรถเล็กในลักษณะการแรลลี หากต้องการอำนวยความสะดวกหรือดูแลเรื่องความปลอดภัย สามารถแจ้งมาที่กระทรวงการท่องเที่ยว หรือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้
ส่วนกรณีบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด ที่มีบริษัททัวร์หรือบริษัทนายหน้านำไปขายเกินราคา นายพิพัฒน์ ระบุว่า เป็นเรื่องการตลาด ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งบัตรนี้จะมี 7-8 บัตร มีวงเงินที่จะสามารถจองที่นั่งพิเศษและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรับ แล้วนำเข้าช่องทางพิเศษ รวมถึงให้การบริการในการส่งถึงหน้าประตูทางออก หรือส่งถึงหน้าประตู แต่หากอยากให้มีรถรับส่งก็จะคิดค่าบริการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ส่วนที่มีการโฆษณาเกินจริงว่ามีโปรโมชันเสริม สามารถทำบัตรประชาชนได้ ในบัตรพริวิลเลจการ์ดนั้น ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบแล้ว
นายพิพัฒน์ กล่าวถึงกรณีการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าของนักท่องเที่ยวกลุ่มดาราสาวชาวไต้หวัน ว่าบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นใครที่พกพา นำเข้ามาในประเทศไทย ถือว่าผิดกฎหมายไทย แต่การพบนักท่องเที่ยวสูบ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจะจับปรับได้ จะต้องนำส่งศาลอย่างเดียว
