"ลุงป้อม" เข้มสั่งลุย ปราบค้ามนุษย์ –แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยกระดับการทำงานเจ้าหน้าที่ ช่วยประชาชนเดือดร้อน

View icon 228
วันที่ 9 ธ.ค. 2565
ข่าวในประเทศ
แชร์
"ลุงป้อม" เข้มสั่งลุย ปราบค้ามนุษย์ –แก๊งคอลเซ็นเตอร์  โชว์ผลงานปิดกั้นข้อความ SMS/โทรหลอกลวงแล้ว จำนวน 94,043 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊ง Callcenter 46 คดี  อายัดบัญชีม้าจำนวน 47,245 บัญชี


ลุงป้อม สั่งลุย ปราบค้ามนุษย์ –แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (9 ธ.ค. 65 ) พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 3/2565  และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 5/2565 ต่อเนื่องกัน ณ  ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และผู้แทนหน่วยเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบและต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกการส่งต่อระดับชาติ National Referral Mechanism และความคืบหน้าการจัดทำความต้องการขอรับสนับสนุนงบประมาณเพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ ทั้งนี้ ที่ประชุม ปคม. ได้เห็นชอบร่างรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2565 ซึ่งจะนำเสนอผลการดำเนินงาน ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งพลเอกประวิตรได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามกรอบเวลาอย่างเคร่งครัด

สำหรับที่ประชุม ปกค. ได้เห็นชอบองค์ประกอบคำสั่งคณะกรรมการสรรหาผู้เชี่ยวชาญระดับชาติ ระดับภาค และระดับหน่วยงาน รวมถึงการขยายระยะเวลาการดำเนินงาน รวมถึงได้เห็นชอบในการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับและติดตามการดำเนินงานช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ 

ต่อมาพลเอกประวิตรฯ เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้ามาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญได้แก่ (1) การเสนอร่าง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ พ.ศ. .... ซึ่งในขณะนี้ ดีอีเอสได้นำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว ทำให้ธนาคารสามารถแก้ไขปัญหากรณีพบพฤติกรรมที่ต้องสงสัยและสามารถระงับพฤติกรรมดังกล่าวได้ ตัดวงจรอาชญากรรมก่อนกระทบในวงกว้าง (2) การแจ้งเตือนภัยออนไลน์ผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตัง (3) การแก้ไขปัญหาการยืนยันตัวตนใน Mobile Application (4) การดำเนินการกับผู้ครอบครองซิมโทรศัพท์จำนวนมากและที่ไม่ลงทะเบียนยืนยันตัวตนตามระบบ ทั้งนี้ ในปี 2565 นี้ ปรากฏสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญ ได้แก่ การปิดกั้นข้อความ SMS/โทรหลอกลวง จำนวน 94,043 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊ง Callcenter 46 คดี มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 60 ราย การอายัดบัญชีม้าจำนวน 47,245 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 8 กลุ่ม การดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน- ระดมทุน ออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 562 คดี การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดี 287 คดี  และปิดกั้นเว็บไซต์พนันจำนวน 1,691 เว็บไซต์ การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดีจำนวน 246 คดี
          
ด้าน พล.ต.อ. ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร ได้เน้นย้ำในที่ประชุมให้ทุกหน่วยยกระดับความเข้มข้นในการดำเนินตามมาตรการของรัฐบาล เพื่อป่องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพ รวมถึงให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อการข่มขู่หรือเชิญชวนลงทุนต่างๆ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่นโดยง่าย