กสทช. ขู่ยึดเงิน 600 ล้านบาทคืน ก้องศักด ขอให้ใจเย็นๆ รอฟังคำตัดสินศาล เรื่องการเผยแพร่ในหลากหลายช่องทาง ปท.อื่น ดึงสัญญาณไปได้ “ฟีฟ่า” ก็เตือนทุกวัน แก้ไม่เสี่ยงสูงถูกระงับสัญญาณ
กสทช. ร่อนหนังสือด่วนถึง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เรื่องแจ้งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่องการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ถึงนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้เร่งดำเนินการแก้ไข ให้ถูกต้องตามข้อตกลง MOU และ กฎ Must Carry มิเช่นนั้นจะแจ้งยกเลิกการสนับสนุนเงินค่าลิขสิทธิ์ 600 ล้านบาท ต้องคืนภายใน 15 วัน พร้อมดอกเบี้ย 5 %
รวมทั้งต้องดำเนินการให้ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ที่ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) ทุกราย ดำเนินการออกอากาศรายการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 (รอบสุดท้าย) ให้สมาชิกสามารถได้รับบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไปได้โดยตรงอย่างต่อเนื่อง
หลังมีประเด็น กลุ่มทรู ได้รับสิทธิในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในระบบ IPTV และระบบ OTT ได้ยื่นฟ้องผู้ให้บริการทีวีอินเทอร์เน็ต ที่ให้บริการผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการชั่วคราว
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า ได้ทำตามระเบียบและเอกสารต่างๆ ตามกฎเกณฑ์ที่ กสทช. ระบุแล้วทุกอย่าง ขณะเดียวกัน ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลทรัพย์สินทางปัญญา ว่าจะให้ปฏิบัติอย่างไรด้วย ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 2-3 วัน น่าจะได้รับคำตัดสิน ซึ่ง กกท.พร้อมทำตามทุกอย่าง
ส่วนประเด็นที่จะต้องคืนเงิน 600 ล้านบาท ต้องรอดูว่าสามารถทำได้และชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากทางกลุ่มทรู ก็เป็นผู้สนับสนุนในการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเหมือนกัน ซึ่ง กกท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ปฏิบัติตามระเบียบของ กสทช. ทุกประการ ส่วนเรื่องการเผยแพร่ในหลากหลายช่องทางนั้น ทำให้เกิดปัญหาของการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะประเทศอื่นสามารถดึงสัญญาณไปได้ ซึ่ง กกท. ได้รับหนังสือเตือนจากฟีฟ่าทุกวันเช่นกัน ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกระงับสัญญาณ
