บิ๊กป้อม สั่งทุกหน่วยงานบูรณาการเตรียมพร้อมรับมือฝนหนักภาคใต้

View icon 60
วันที่ 1 ธ.ค. 2565
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
บิ๊กป้อม กำชับทุกหน่วยงานติดตามข้อมูลฝนตกหนักภาคใต้ วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง ตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ บูรณาการรับมือน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมเพิ่มพื้นที่การทำแก้มลิงในลุ่มเจ้าพระยาตอนใต้

วันนี้ (1 ธ.ค. 65) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 4/2565 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม 

โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งได้มีการใช้ข้อมูลปริมาณน้ำฝนพยากรณ์ในระบบ One Map วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเพื่อเตรียมพร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด   โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อบูรณาการความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงได้ติดตามแนวทางทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง ให้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบ รวมถึงสามารถปรับแผนการระบายน้ำเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีในกรณีที่มีการประเมินหรือคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะวิกฤติ

ทั้งนี้  คณะทำงานฯเขื่อนบางลาง มีแผนการระบายน้ำลดผลกระทบและความเสี่ยงตลอดเดือน ธ.ค. 65 โดยจะระบายน้ำวันละ 8 - 12 ล้านลูกบาศก์เมตร และปรับลดตามสถานการณ์ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตามแผนระบายน้ำดังกล่าว พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกลไกที่กำหนด เพื่อลดผลกระทบให้เกิดแก่ประชาชนน้อยที่สุด และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเร่งระบายน้ำในทุ่งลงสู่ลำน้ำสายหลักต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มพื้นที่แก้มลิงรับน้ำให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีและมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นจากสภาพการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันและสภาพอากาศที่มีความผันผวนมากขึ้น ยังเป็นการเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตร โดยมีการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการปี 65-68 คือการตัดปริมาณน้ำหลากส่วนเกิน 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมอบหมายให้มีการเร่งดำเนินการควบคู่กับการดำเนินการโครงการ 9 แผนหลักลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง และมอบหมายให้มีการเสนอต่อ กนช. ให้ความเห็นชอบต่อไป

และในวันนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนครั้งที่ 2/2565  โดยขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งรัด ดำเนินการ แก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึง รายงานผล ให้คณะกรรมการ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อยุติ โดยเร็วต่อไป