เช้าข่าว 7 สี

ทนายเดชา ขอถอนตัวดูแลคดีแตงโม นิดา

เช้าข่าว 7 สี - หลังจากที่ทนายเดชา ออกมาแถลงเรื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโม อยู่กับ บังแจ็ค ไปเมื่อวันก่อน เมื่อวานนี้ก็มีเรื่องให้โซเชียลต้องตกใจอีก เมื่อ ทนายเดชา ตัดสินใจขอถอนตัวจากการเป็นทนายความให้แม่ของแตงโม ขณะที่ สส.เต้ ก็ออกมาประกาศว่า ได้เตรียมทีมกฎหมายรับช่วงดูแลคดีความให้ แม่แตงโม ต่อเอง

เรื่องนี้ต้องเริ่มจากที่มีข่าวว่า ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ จะพาแม่แตงโม ไปพบตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน กรณีที่พบว่าได้ส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโม ไปให้กับ บังแจ็ค ในช่วงประมาณ 15.00 น. ของเมื่อวานนี้

แต่ปรากฎว่าในช่วงสายของวันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ สส.เต้ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่า "แจ้ง ผู้บัญชาการไซเบอร์ วันนี้ (26 พ.ค.) คุณแม่แตงโม ไม่สะดวกจะไปพบ ถ้าสะดวกแล้วจะแจ้งไป ตอนนี้คุณแม่แตงโม มอบให้ฝ่ายกฏหมายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ดูแลคดีแตงโม และทุกคดีที่เกี่ยวทั้งหมดต่อไป"

ก็ทำเอาพากันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา ทนายเดชา ก็ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ผมและคุณแม่แตงโมได้ตกลงกันเกี่ยวกับคดีแตงโม โดยผมขอถอนตัวจากการเป็นทนายความ เนื่องจากมีความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม"

ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามทนายเดชา ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจถอนตัวจากคดีนี้ ซึ่งก็ให้เหตุผลไว้ 3 ข้อ คือ

1. ความเห็นทางคดีแตงโมไม่ตรงกัน เนื่องจากตนเห็นด้วยกับพนักงานสอบสวนและอัยการว่า คดีเป็นเรื่องความประมาทของคนบนเรือ แต่แม่กลับเชื่อ บังแจ็ค นายอัจฉริยะ ว่าเป็นคดีฆาตกรรม

2. คือเรื่องที่แม่ส่งมือถือของแตงโม ให้บังแจ็ค โดยไม่ปรึกษาตนเอง

3. เป็นเรื่องที่แม่จะให้ตนเองดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เพราะไม่พอใจที่ ทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์แม่ ทั้งนี้ สำหรับการดูแลคดีแตงโม จะทำหน้าที่ทนายต่อจนถึงชั้นอัยการ แล้วหลังจากนี้จะไม่พูด หรือยุ่งเกี่ยวเรื่องคดีแตงโมอีก

ส่วน สส.เต้ ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ที่รัฐสภา บอกว่า ได้เตรียมรวบรวมนักกฎหมายที่พร้อมจะช่วยเหลือทำคดีนี้ประมาณ 10 คน และนักกฎหมายของ นายอัจฉริยะ อีกประมาณ 10 คน ดูแลทั้ง 2 คดี คือ คดีอาญาที่จะพิสูจน์ว่าเหตุการณ์บนเรือเป็นคดีฆาตกรรมจริงหรือไม่ และการเรียกค่าเสียหายทางแพ่งให้กับแม่ของแตงโม โดยคิดความเสียหายไว้ที่ 200 ล้านบาท นอกจากนี้จะประสานกับ เบิร์ด เทคนิค แฟนของแตงโม ด้วยว่าต้องการเป็นโจทก์ร่วมในการเรียกร้องค่าเสียหายด้วยหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะขอเวลา 15-30 วัน ในการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ก่อนดำเนินการตามกฎหมาย

เรื่องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ แตงโม ในสำนวนคดีหลัก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ได้นำข้อเรียกร้อง 8 ข้อ ไปขอให้อัยการสูงสุดพิจารณา โดย 5 ข้อแรก เป็นการขอให้เรียกสอบพยานต่าง ๆ ส่วนอีก 3 ข้อที่เหลือ เป็นการขอให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานใหม่ โดยเชื่อว่าใช้เวลาประมาณ 10 วัน เสร็จสิ้นทันก่อนหมดกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 คน

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังไปแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ในความผิดฐาน ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพราะเชื่อว่ามีการแก้เวลาในภาพที่อยู่บนเรือ แล้วนำหลักฐานไปมอบให้กับตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมาด้วย

ขณะที่เมื่อวานนี้ นางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี นำรายงานความเห็นทางคดีแตงโม นิดา ไปรายงานต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้มีความเห็นทางคดี ก่อนที่จะมีการแถลงสั่งคดีในวันนี้ โดยยอมรับว่าไม่สามารถระบุได้ว่าวันนี้จะมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา หรือให้เลื่อนฟังคำสั่งไปก่อน เพราะต้องรอให้อัยการสูงสุดพิจารณา แต่อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ประกอบด้วยผู้ที่อยู่บนเรือ 5 คน และผู้ให้คำแนะนำ 1 คน จะต้องมาพบอัยการตามนัด

ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่แม่ส่งไปให้อยู่ในความดูแลของ บังแจ็ค เพื่อขอให้ช่วยกู้ภาพที่ถูกลบออกไปนั้น บังแจ๊ค บอกว่า ตอนนี้ทำไปได้ประมาณ 30,000 กว่ารูปแล้ว เหลืออีกราว ๆ 10,000 กว่ารูป คาดว่าอีก 1-2 วัน หากดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วก็จะส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโม คืนไปให้กับแม่เอง ทั้งนี้ยังยืนยันด้วยว่า สิ่งที่ทำไปไม่ใช่การคุกคามผู้เสียชีวิต แต่เป็นการทำให้สังคมรู้ว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จึงได้ลงรูปต่าง ๆ ตามที่ตัวเองสงสัย และเรื่องนี้ก็ไม่มีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อย่างใด

แต่เรื่องที่ กระติก ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย และอย่างที่รู้กันว่า ภาพที่ปรากฎ บังแจ็ค ยอมรับเองว่า ตนเองได้โพสต์ภาพเหล่านี้ออกไป ก็ทำให้ พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ มั่นใจว่า หลังการสอบพยานอีก 1 ปากในวันนี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับ บังแจ็คได้

ส่วนที่สงสัยว่าแม่ของแตงโม จะถูกดำเนินคดีไปด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องดูคำให้การของแม่แตงโมก่อนว่าที่ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ของแตงโม ไปให้ บังแจ็ค ทำไปเพราะมีวัตถุประสงค์ใด ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานกับทาง สส.เต้ ให้พามาพบเพื่อให้การในฐานะพยานในวันที่ 2 มิถุนายนนี้

ซึ่งในการชี้แจงของทางตำรวจ ก็มีการท้าทายให้ บังแจ็ค กลับมาที่เมืองไทยด้วย แต่ก็ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นไปได้ยาก เพราะมีการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วพบว่า ปัจจุบัน บังแจ็ค ยังอยู่ระหว่างการถูกขึ้นแบล็คลิสต์เป็นเวลา 10 ปี เพราะอยู่ไทยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 450 วัน นับตั้งแต่ปี 2559 ดังนั้น บังแจ็ค จะสามารถเข้าไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้งคือในปี 2569