เช้าข่าว 7 สี - สาธารณสุข จังหวัดชัยภูมิ ได้รับผลวิเคราะห์จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา แล้ว หลังนำตัวอย่างอาหาร น้ำ และเครื่องดื่มจากอาศรมฤาษี พระบิดา ไปตรวจ แนะควรเลี่ยงการบริโภค เนื่องจากพบทั้งเชื้อรา และสารอีโคไล ที่ปนเปื้อนอยู่กับอุจจาระ
ผลตรวจอาหารและน้ำ อาศรม พระบิดา ออกแล้ว เลี่ยงบริโภค จ.ชัยภูมิ
ยืนยันเรื่องนี้มาจากสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดชัยภูมิ แล้ว หลังจากที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ส่งผลการวิเคราะห์ตัวอย่างอาหาร น้ำ และเครื่องดื่ม ที่เก็บมาจากอาศรมฤาษี พระบิดา บ้านกุดแคน หมู่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ รวมทั้งหมด 36 ตัวอย่าง แบ่งเป็นครั้งแรก 26 ตัวอย่าง และครั้งหลังสุด ส่งมาเพิ่มอีก 10 ตัวอย่าง เพื่อตรวจหาเชื้อที่ทำให้ก่อโรค วัตถุเจือปนอาหาร และสารพิษ โดยผลการตรวจมีดังนี้
ผลตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเครื่องดื่มผลไม้รวม และน้ำส้ม 25% จำนวน 2 ตัวอย่าง พบว่า ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 356 (พ.ศ. 2556) เรื่อง เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท และฉบับที่ 416 (พ.ศ. 2563) เรื่อง กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการตรวจวิเคราะห์ของอาหารด้านจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค
ส่วนผลการตรวจตัวอย่างน้ำจากน้ำในถังสแตนเลส และถังน้ำต่าง ๆ ในพื้นที่อาศรม จำนวน 3 ตัวอย่าง ตรวจพบเชื้ออีโคไล และสารโคลิฟอร์ม เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 61 (พ.ศ.2524) และฉบับที่ 135 (พ.ศ.2534) เรื่อง น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท โดยเชื้ออีโคไล และโคลิฟอร์มเป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นดัชนีบ่งชี้การปนเปื้อนอุจจาระ สาเหตุก่อโรคทางเดินอาหาร ท้องเสีย และอาหารเป็นพิษ
สำหรับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ หมึกแห้ง จำนวน 3 ตัวอย่าง พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฉบับที่ 3 สาเหตุเนื่องจากในตัวอย่างข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ และปลาหมึกแห้ง ตรวจพบเชื้อราเกินมาตรฐานกำหนด
แต่ที่ทุกคนกำลังติดตาม คือ ตัวอย่างปลาร้าบองแมงดา และปลาร้า แซ่บหลาย ตอนนี้ผลการวิเคราะห์ยังไม่ออก เพราะมีสารบางตัวที่ต้องส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้มีความชัดเจนว่า เป็นจุลินทรีย์ชนิดใด เตือนประชาชนควรงดบริโภคอย่างเด็ดขาด
ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ โต้ "พระบิดา" หลังส่งทนายความแจ้งความ
เมื่อวานนี้ ก็มีความเคลื่อนไหวจาก พระบิดา เจ้าลัทธิประหลาด เช่นกัน หลังจากที่เงียบหายไปนาน ได้ให้ทนายความแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คอนสาร เพื่อดำเนินคดีกับ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จังหวัดชัยภูมิ ในความผิดฐานบุกรุกเคหสถาน และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายไกรสร ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "อุ๊ย พระบิดา พระองค์ลงทุนแจ้งความจับผู้ว่าชัยภูมิเลยรึขอรับ นับเป็นความภาคภูมิใจ ในชีวิตรับราชการ อย่างยิ่ง อิอิ" โดยมีชาวเน็ตกดแชร์และแสดงความเห็น ส่วนใหญ่จะเชียร์ให้กลับไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และให้กำลังใจ เช่น "อย่านะ ๆ อย่ามาแตะผู้ว่าคนนี้นะ, ขออนุญาต ปกป้อง ท่านผู้ว่า ไม่ยอม ๆ หรือ จะเป็น โอ๊ยพระบิดาไม่รู้ชะแล้ว เป็นห่วงชะตากรรมพระบิดายิ่งนัก" และอีกหลายคอมเมนต์ ทั้งนี้ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ
ก่อนหน้านี้ พระบิดา ถูกแจ้งดำเนินคดี 8 ข้อหา คือ บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์, การรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุขฯ, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรม หรือ มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค, ปลูกผลิตกัญชา, มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง, เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินคดีในฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
