พ่อกับแม่เลี้ยง ร้องมูลนิธิปวีณาฯ ช่วย แม่แท้ ๆ กับป้า ค้ากามลูกสาวตั้งแต่ 11 ขวบ เอาเงินซื้อยาบ้าเสพ ใช้หนี้นอกระบบดอกรายวัน


จากรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 68 พ่ออายุ 35 ปี อาชีพขับรถรับจ้างและแม่เลี้ยง ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยแจ้งว่า ลูกสาวอายุ 13 ปี ถูกแม่แท้ ๆ และป้าพาไปขายบริการกับชายวัย 50 ปี ที่โรงแรมม่านรูดถึง 2 ครั้ง ในช่วงที่ลูกสาวอายุ 11 ขวบ เพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และจ่ายหนี้นอกระบบรายวัน ซึ่งลูกสาวถูกข่มขู่ห้ามบอกใคร จนทนไม่ไหวเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา
ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ตนกับอดีตภรรยาอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 13 ปี คนเล็กอายุ 8 ขวบ โดยพ่อแม่ได้แยกทางกันหลายปีแล้วตั้งแต่ลูกยังเล็ก ส่วนอดีตภรรยาไม่ยอมให้ลูกทั้ง 2 คน มาอยู่กับตน เวลาตนจะไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้งก็ยากเย็น ถูกกีดกันไม่ยอมให้เจอ นาน ๆ ครั้งถึงจะได้เจอลูกในช่วงเทศกาล กระทั่งวันที่ 26 เม.ย. 68 ลูกสาวคนโตได้ติดต่อมาหาแม่เลี้ยง และบอกว่าไม่อยากอยู่กับแม่และยายแล้ว เพราะถูกใช้งานหนัก ทุบตี ด่าทอต่อหน้าคนอื่น ทำให้รู้สึกอายและเก็บกด ตนจึงขับรถจาก จ.ภูเก็ต มารับลูกที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนัดให้ลูกออกมาเจอข้างนอก จากนั้นพาลูกไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.หัวหิน และแจ้งอดีตภรรยาว่าจะพาลูกไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต แต่เขาไม่ยอมและขอพูดคุยกับลูกทางโทรศัพท์
จากนั้นลูกสาวได้พูดต่อว่าแม่ เรื่องที่พาไปให้ผู้ชายดูตัว และพาไปขายบริการตอนอายุ 11 ขวบ กับชายวัย 50 ปี 3 ครั้ง แม่จึงยอมให้ลูกไปกับพ่อ เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงบอกว่า ถ้าไม่ให้จะฟ้องกลับ ก่อนจะพากันเดินทางกลับภูเก็ตและโทรแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดีกับแม่แท้ ๆ
ขณะเดียวกัน ลูกสาวเล่าให้พ่อและแม่เลี้ยงฟังว่า ครั้งแรกเดือน ส.ค. 66 แม่และป้าเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ชายวัย 50 ปี ที่เป็นลูกค้าดูตัวและพาไปส่งที่โรงแรม หลังถูกกระทำเด็กกลับมาบ้านอวัยวะเพศมีเลือดออกและปวดแสบมาก แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร คงเป็นเลือดประจำเดือน ต่อมาเดือน ต.ค.66 ป้าก็ได้พาไปส่งขายบริการให้กับชายอายุ 50 ปี คนเดิม ที่โรงแรมม่านรูดที่เดิม แต่ขัดขืนไม่ยอม ชายคนดังกล่าวจึงได้พากลับมาส่งที่สวนสาธารณะ ซึ่งแม่คนเป็นมารอรับกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้บอกกับแม่ว่า ต่อไปไม่ต้องพามาแล้วนะ แม่จึงได้ด่าทอลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคาย
นอกจากนี้ลูกสาวยังบอกอีกว่า แม่ติดยาบ้า เมื่อเดือนที่แล้วยังขี่รถจักรยานยนต์พาลูกสาวไปบ้านเพื่อนเพื่อเอายาบ้ามาเสพ โดยให้ลูกสาวเดินไปรับยาบ้าจากเพื่อน เพราะแม่กลัวถูกจับ และแม่ยังมีหนี้สินที่ต้องจ่ายรายวันอีกด้วย โดยผู้พ่อต้องการจะเอาเรื่องกับอดีตภรรยา ที่ค้าประเวณีลูกตัวเองให้ถึงที่สุด และเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกสาวคนเล็กอายุ 8 ขวบ ที่ยังต้องอยู่กับแม่และยาย จึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน ให้พ่อและแม่เลี้ยงพาลูกสาวเข้าแจ้งความ ด้านพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที และนัดทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กหญิงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ต่อมาพ่อกับแม่เลี้ยงและลูกได้เดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนถึงทุกวันนี้
ล่าสุดนี้ (19 พ.ค. 68) นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กัมปนาท ว่าพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับแม่และป้าที่เป็นธุระจัดหาพาลูกสาวตัวเองไปขายบริการแล้ว ในข้อหา ค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา, ค้าบริการเด็กหญิง, กระทำต่อผู้สืบสันดาน และเช้าวันนี้ ชุดสืบสวน สภ.หัวหิน ได้ทำการจับกุมตัวแม่แท้ ๆ ได้แล้ว โดยได้ควบคุมตัวมาตรวจหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหา เสพยาบ้า เพิ่มอีก 1 ข้อหา
จากการสอบสวนแม่แท้ ๆ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับป้าค้าบริการลูกสาว โดยครั้งแรก พาลูกสาวไปให้ผู้ชายดูตัวที่สวนสาธารณะได้เงิน 1,500 บาท ครั้งที่ 2 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 2,000 บาท ครั้งที่ 3 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 5,000 บาท แต่ถูกป้าเอาเงินไปหมด หลังจากนั้นผู้ชายที่ซื้อบริการบอกว่าไม่ต้องพาลูกสาวไปแล้ว เพราะครั้งที่ 3 ลูกสาวได้ต่อสู้ขัดขืนจนหมดอารมณ์ ทั้งนี้จะควบคุมตัวไปฝากขังวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สภ.หัวหิน อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวป้า ที่ร่วมเป็นธุระจัดหา และขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ตนกับอดีตภรรยาอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 13 ปี คนเล็กอายุ 8 ขวบ โดยพ่อแม่ได้แยกทางกันหลายปีแล้วตั้งแต่ลูกยังเล็ก ส่วนอดีตภรรยาไม่ยอมให้ลูกทั้ง 2 คน มาอยู่กับตน เวลาตนจะไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้งก็ยากเย็น ถูกกีดกันไม่ยอมให้เจอ นาน ๆ ครั้งถึงจะได้เจอลูกในช่วงเทศกาล กระทั่งวันที่ 26 เม.ย. 68 ลูกสาวคนโตได้ติดต่อมาหาแม่เลี้ยง และบอกว่าไม่อยากอยู่กับแม่และยายแล้ว เพราะถูกใช้งานหนัก ทุบตี ด่าทอต่อหน้าคนอื่น ทำให้รู้สึกอายและเก็บกด ตนจึงขับรถจาก จ.ภูเก็ต มารับลูกที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนัดให้ลูกออกมาเจอข้างนอก จากนั้นพาลูกไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.หัวหิน และแจ้งอดีตภรรยาว่าจะพาลูกไปอยู่ที่ จ.ภูเก็ต แต่เขาไม่ยอมและขอพูดคุยกับลูกทางโทรศัพท์
จากนั้นลูกสาวได้พูดต่อว่าแม่ เรื่องที่พาไปให้ผู้ชายดูตัว และพาไปขายบริการตอนอายุ 11 ขวบ กับชายวัย 50 ปี 3 ครั้ง แม่จึงยอมให้ลูกไปกับพ่อ เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงบอกว่า ถ้าไม่ให้จะฟ้องกลับ ก่อนจะพากันเดินทางกลับภูเก็ตและโทรแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดีกับแม่แท้ ๆ
ขณะเดียวกัน ลูกสาวเล่าให้พ่อและแม่เลี้ยงฟังว่า ครั้งแรกเดือน ส.ค. 66 แม่และป้าเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ชายวัย 50 ปี ที่เป็นลูกค้าดูตัวและพาไปส่งที่โรงแรม หลังถูกกระทำเด็กกลับมาบ้านอวัยวะเพศมีเลือดออกและปวดแสบมาก แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร คงเป็นเลือดประจำเดือน ต่อมาเดือน ต.ค.66 ป้าก็ได้พาไปส่งขายบริการให้กับชายอายุ 50 ปี คนเดิม ที่โรงแรมม่านรูดที่เดิม แต่ขัดขืนไม่ยอม ชายคนดังกล่าวจึงได้พากลับมาส่งที่สวนสาธารณะ ซึ่งแม่คนเป็นมารอรับกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้บอกกับแม่ว่า ต่อไปไม่ต้องพามาแล้วนะ แม่จึงได้ด่าทอลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคาย
นอกจากนี้ลูกสาวยังบอกอีกว่า แม่ติดยาบ้า เมื่อเดือนที่แล้วยังขี่รถจักรยานยนต์พาลูกสาวไปบ้านเพื่อนเพื่อเอายาบ้ามาเสพ โดยให้ลูกสาวเดินไปรับยาบ้าจากเพื่อน เพราะแม่กลัวถูกจับ และแม่ยังมีหนี้สินที่ต้องจ่ายรายวันอีกด้วย โดยผู้พ่อต้องการจะเอาเรื่องกับอดีตภรรยา ที่ค้าประเวณีลูกตัวเองให้ถึงที่สุด และเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกสาวคนเล็กอายุ 8 ขวบ ที่ยังต้องอยู่กับแม่และยาย จึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน ให้พ่อและแม่เลี้ยงพาลูกสาวเข้าแจ้งความ ด้านพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที และนัดทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กหญิงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ต่อมาพ่อกับแม่เลี้ยงและลูกได้เดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนถึงทุกวันนี้
ล่าสุดนี้ (19 พ.ค. 68) นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กัมปนาท ว่าพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับแม่และป้าที่เป็นธุระจัดหาพาลูกสาวตัวเองไปขายบริการแล้ว ในข้อหา ค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา, ค้าบริการเด็กหญิง, กระทำต่อผู้สืบสันดาน และเช้าวันนี้ ชุดสืบสวน สภ.หัวหิน ได้ทำการจับกุมตัวแม่แท้ ๆ ได้แล้ว โดยได้ควบคุมตัวมาตรวจหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหา เสพยาบ้า เพิ่มอีก 1 ข้อหา
จากการสอบสวนแม่แท้ ๆ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับป้าค้าบริการลูกสาว โดยครั้งแรก พาลูกสาวไปให้ผู้ชายดูตัวที่สวนสาธารณะได้เงิน 1,500 บาท ครั้งที่ 2 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 2,000 บาท ครั้งที่ 3 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 5,000 บาท แต่ถูกป้าเอาเงินไปหมด หลังจากนั้นผู้ชายที่ซื้อบริการบอกว่าไม่ต้องพาลูกสาวไปแล้ว เพราะครั้งที่ 3 ลูกสาวได้ต่อสู้ขัดขืนจนหมดอารมณ์ ทั้งนี้จะควบคุมตัวไปฝากขังวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สภ.หัวหิน อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวป้า ที่ร่วมเป็นธุระจัดหา และขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป