มติ 8 ต่อ 1 “ศาลรัฐธรรมนูญ” ตีตกคำโต้แย้ง “รัชนี พลซื่อ” สส.ร้อยเอ็ด พปชร. กรณีซื้อเสียงปี 65


ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 ตีตกคำโต้แย้ง “รัชนี พลซื่อ” สส.ร้อยเอ็ด หลัง กกต.ส่งศาลขอให้เพิกถอนสิทธิสมัคร และ สิทธิเลือกตั้ง จากกรณีซื้อเสียง ปี 2565
วันนี้ (15ม.ค.68) ที่ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ส่งคำโต้แย้งของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้คัดค้าน ในคดีหมายเลขดำที่ ลต.อบจ.1/2567 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นฟ้อง ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือสิทธิเลือกตั้ง จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) ร้อยเอ็ดเมื่อปี 2565
โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 64 (4) และมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 26 และมาตรา 27 หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วมีมติโดยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 8 คน คือ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เห็นว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 64 (4) ว่าด้วยการห้ามหาเสียงหลัง 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา27 วรรคหนึ่งและวรรคสาม
ส่วนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65
วรรคหนึ่ง (2) ห้ามเสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 26 วรรคหนึ่งและวรรคสาม
หลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะส่งมติดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2567 กกต. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปี 2565 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง พร้อมดำเนินคดีอาญากับนางรัชนี นายเอกภาพ พลชื่อ อดีต สส.ซึ่งเป็นสามี และ นายเอกรัฐ พลชื่อ บุตรชาย ที่มีตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65 (2) ประกอบมาตรา 126 ด้วย กรณีแจกเงินชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว
วันนี้ (15ม.ค.68) ที่ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ส่งคำโต้แย้งของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้คัดค้าน ในคดีหมายเลขดำที่ ลต.อบจ.1/2567 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นฟ้อง ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือสิทธิเลือกตั้ง จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) ร้อยเอ็ดเมื่อปี 2565
โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 64 (4) และมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 26 และมาตรา 27 หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วมีมติโดยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 8 คน คือ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เห็นว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 64 (4) ว่าด้วยการห้ามหาเสียงหลัง 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา27 วรรคหนึ่งและวรรคสาม
ส่วนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65
วรรคหนึ่ง (2) ห้ามเสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 26 วรรคหนึ่งและวรรคสาม
หลังจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะส่งมติดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2567 กกต. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปี 2565 กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง พร้อมดำเนินคดีอาญากับนางรัชนี นายเอกภาพ พลชื่อ อดีต สส.ซึ่งเป็นสามี และ นายเอกรัฐ พลชื่อ บุตรชาย ที่มีตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65 (2) ประกอบมาตรา 126 ด้วย กรณีแจกเงินชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว