เปิดใจ รอง ผกก. ถูกผู้บริหารสาวถีบหน้า

วันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลา 04:28 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจยืนยันจะดำเนินคดีกับหญิงที่เมาแล้วขับให้ถึงที่สุด เพราะไม่เพียงต่อสู้ขัดขืนการควบคุมตัว แต่ยังใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย เป็นการเปิดใจอธิบายถึงที่มาที่ไปของการถูกทำร้ายร่างกาย หลัง พันตำรวจโท ดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ขอความร่วมมือตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แล้วผลออกมาพบว่าสูงถึงกว่า 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ใช้ถ้อยคำหยาบคาย พูดไม่ดี และขัดขืน โดยเฉพาะช่วงที่จะนำตัวไปส่งที่ สน.ประเวศ ได้ใช้เท้าถีบเข้าที่ศีรษะ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ส่วนที่ตัดสินใจจะเอาผิดให้ถึงที่สุด ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ถูกทำร้าย แต่เป็นเรื่องที่อีกฝ่ายใช้ถ้อยคำด้อยค่า พูดกับตำรวจที่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากเหตุการณ์จับกุมแล้ว เหตุการณ์ที่หน้า สน.ประเวศ ก็ต้องเรียกว่าไม่แผ่ว เมื่อผู้หญิงคนนี้พยายามจะต่อรองเจ้าหน้าที่ ว่าจะขอเคลียร์กันที่หน้า สน. มองว่า "เรื่องแค่นี้ ไม่ได้ทำผิดมาก" คดีนี้ ผู้กำกับการ สน.ประเวศ บอกว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งไป 3 ข้อหา คือ เมาแล้วขับ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพแค่ข้อหา "เมาแล้วขับ" แต่อีก 2 ข้อหาให้การปฏิเสธ จึงนัดสอบปากคำอีกครั้งวันที่ 3 พฤษภาคม ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีเมาแล้วขับฯ มาแล้วเมื่อปี 2565 ขณะที่ทาง Google ประเทศไทย ได้ส่งจดหมายชี้แจงว่า บุคคลที่ถูกกล่าวถึงในข่าว ปัจจุบันไม่ได้มีสภาพเป็นพนักงานของบริษัท Google แล้ว เพราะได้ออกจากการเป็นพนักงาน ไปตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า ข้อมูลที่ออกไปมีบางอย่างไม่เป็นความจริง และถูกบิดเบือน โดยได้มอบให้ทนายความดำเนินการแล้ว จุดประสงค์หลัก คือ ยอมรับในส่วนที่ทำ และใช้หลักฐานชี้แจงในส่วนอื่น ๆ ส่วนเรื่องงาน ได้ลาออกจากบริษัทไปตั้งแต่ต้นปี เพื่อมาพัฒนากองทุนให้ Startup ในเมืองไทย