ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ปี 2567 ใครถึงเกณฑ์ รับสิทธิช่วยเหลือ

วันที่ 6 ก.พ. 2567 เวลา 14:13 น.

ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ปี 2567 รัฐบาลช่วยค่าครองชีพ รายละ 600-1,000 บาท เช็กหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ยื่นขอรับสิทธิอย่างไร ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ปี 2567 ผู้สูงอายุลงทะเบียนรับเงินคนชรา พ่อแม่ผู้ปกครองเงินอุดหนุนบุตร และเบี้ยยังชีพผู้พิการ โดยล่าสุดนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล ออกมาย้ำถึงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน รัฐบาลนำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะมาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยล่าสุด กลุ่มเปราะบาง ซึ่งประชาชนที่ได้รับสิทธิจำนวน 3 กลุ่ม  ได้แก่  เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยผู้พิการ ในงวดเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ อ่านข่าว : เงินช่วยเหลือ 3 กลุ่ม เงินเข้าไวขึ้น! เดือนกุมภาพันธ์ 67 นี้ ส่วนรายใหม่ที่ต้องการลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ปี 2567 สามารถยื่นขอสิทธิได้ โดยคุณสมบัติที่กำหนด มีดังนี้ กลุ่มที่ 1  เงินอุดหนุนบุตร เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด สวัสดิการเงินอุดหนุนให้แก่เด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย โดยรัฐบาลช่วยออกค่าเลี้ยงดูบุตรให้คนละ 600 บาท/เดือน เพื่อเงินอุดหนุนเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 6 ปี คุณสมบัติ เด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ -มีสัญชาติไทย (พ่อแม่มีสัญชาติไทย หรือพ่อหรือแม่มีสัญชาติไทย) -เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี -อาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย -ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน ผู้ปกครองที่มีสิทธิลงทะเบียน -มีสัญชาติไทย -เป็นบุคคลที่รับเด็กแรกเกิดไว้ในความอุปการะ -เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย -อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย  คือ สมาชิกครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี อ่านข่าว : ลงทะเบียนได้ทั่วประเทศ เงินอุดหนุนเด็กฯ 600 บาท วิธีลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิด และผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง ดังนี้ -กรุงเทพมหานคร  : ลงทะเบียนที่สํานักงานเขต -เมืองพัทยา         : ลงทะเบียนที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา -ส่วนภูมิภาค         : ลงทะเบียนที่องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเทศบาล เอกสารที่ต้องเตรียม --แบบคําร้องขอลงทะเบียน (ดร.01) -แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02) -บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง -สูติบัตรเด็กแรกเกิด -สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ทั้งนี้หากเอกสารถูกต้องครบถ้วน จะได้รับเงินภายใน 1 เดือน หรือ ดาวน์โหลดผ่านแอพพลิเคชั่น เงินเด็ก โดยสามารถลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์ได้ทันที กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จ่ายเป็นรายเดือนแบบขั้นบันได ดังนี้ -อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน -อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน -อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน -อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน คุณสมบัติ -ผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ 2568 คือ คนที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508 และผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี แต่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ -ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้สำหรับข้อกำหนดใหม่ (มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.66) ที่ระบุว่า ต้องเป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด **ในขณะนี้ ยังไม่มีการกำหนดเกณฑ์ชี้วัดการมีรายได้ไม่เพียงพอ** ดังนั้นตอนนี้ผู้มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบเดิมข้างต้น ยังสามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ การลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี 66/67 (ปีงบประมาณ 68) รายละเอียดดังนี้ กรณีที่ 1 ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชัพผู้สูงอายุ -สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - พฤศจิกายน 2566 และเดือนมกราคม 2567- กันยายน 2567 -จะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นไป (ปีงบประมาณ 2568) กรณีที่ 2 ผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณ 2568 (คนที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508) -สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - พฤศจิกายน 2566 และเดือนมกราคม 2567- กันยายน 2567 -จะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณ 2568 โดยจะได้รับเบี้บยังชีพในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เอกสารที่ต้องเตรียม -บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย -ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่เป็นปัจจุบัน -สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร วิธีลงทะเบียน ในเขตกรุงเทพมหานคร ติดต่อสำนักงานเขตที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ ในเขตต่างจังหวัด ติดต่อองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ เทศบาล ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน  ในวัน-เวลาราชการ กรณีผู้สูงอายุไม่สะดวกดำเนินการด้วยตัวเอง -หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง) -สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ -สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ   กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท จ่ายตามเกณฑ์อายุ - ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน - ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ -มีสัญชาติไทย -มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน -มีบัตรประจำตัวคนพิการ -ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ เอกสารที่ต้องเตรียม -บัตรประจําตัวประชาชน -บัตรประจำตัวคนพิการ (ตัวจริง) -ทะเบียนบ้าน (ตัวจริง) -สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนา วิธีลงทะเบียน 1.คนพิการที่จะมีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการในปีงบประมาณถัดไป ให้คนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล แล้วแต่กรณี ยื่นคำขอตามแบบพร้อมเอกสารหลักฐานต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ สถานที่และภายในระยะเวลา ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศกำหนด ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โทร. 0 2354 3388 ต่อ 311 หรือ 313