อดีตผู้ว่าฯ ธปท. ค้าน รัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

วันที่ 8 ต.ค. 2566 เวลา 04:15 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แม้ว่าจะมีนักวิชาการ และนักเศรษฐศาสตร์บางคนออกมาต่อต้าน ยืนยันว่ารัฐบาลน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น อดีตผู้ว่าฯ ธปท. ค้าน รัฐบาลแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท หลังจาก นายยวิรไท สันติประภพ และนางธาริษา วัฒนเกส สองอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมลงชื่อกับนักวิชาการและอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ 99 คน ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวน "นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท" ด้วยเหตุผลที่ว่า เศรษฐกิจไทยกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวตามศักยภาพ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินรัฐเพื่อกระตุ้นระยะสั่้น เพราะจะสร้างภาระหนี้สาธารณะ อีกทั้งประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จำนวนคนวัยทำงานน้อยลง ดังนั้นกระทรวงการคลัง ต้องเตรียมตัวในสิ่งที่จำเป็น เพราะจะมีภาระการใช้จ่ายด้านสวัสดิการ สาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น ควรใช้งบประมาณที่คุ้มค่า รักษาวินัย เสถียรภาพการคลัง ขณะที่เฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ ว่า "นโยบายดิจิทัลวอลเลต ทำเพื่อประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อเอกชนรายใด รายหนึ่ง และไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับใคร" เศรษฐา ยืนกรานไม่ยกเลิก แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แน่นอนว่า เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องออกโรงชี้แจงด้วยตนเอง และยืนยันว่า จะไม่ยกเลิกนโยบายดังกล่าว เพราะระหว่างลงพื้นที่ภาคอีสาน มีประชาชนหลายคน ต้องการเงินดิจิทัลวอลเลต แม้นักวิชาการหลายคน ไม่เห็นด้วย และเรียกร้องให้ยกเลิก ก็ยินดีน้อมรับทุกคำแนะนำ ซึ่งจะนำไปพิจารณา ปรับปรุงให้เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาก็มีนักวิชาการที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อย่างเช่น เรื่องการใช้เงิน ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ก็มีหลายฝ่ายติงมาว่า บางพื้นที่มีแต่ป่า แต่เขาจะไม่สามารถใช้เงินได้ รัฐบาลก็ยินดีรับฟัง และกำลังพิจารณาความเหมาะสมอยู่ ยืนยันว่าโครงการนี้ ไม่ใช่โครงการหาเสียง และไม่ได้มาโปรยเงิน เพื่อหวังกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ขณะที่ สส. ของพรรคเพื่อไทยหลายคน ได้รับการสอบถามจากประชาชนว่า เมื่อไหร่จะได้เงิน 10,000 บาท ซึ่งอยากให้คนคัดค้านรับฟังประชาชนที่หาเช้ากินค่ำบ้าง หรือเกษตรกร ที่ต่างต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก จากปัญหาที่สะสมมาตลอดระยะเวลาหลายปี โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ชีวิตของประชาชนสะดุดจนติดลบ