ปัจจัยการเมือง กดดันเศรษฐกิจ

วันที่ 14 ส.ค. 2566 เวลา 07:02 น.

สนามข่าว 7 สี - ประชาชนเริ่มกังวลสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อ ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งการเมืองวุ่นวายยังกดดันค่าเงินบาทให้ผันผวน แต่หลังจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองไทยยังไม่ชัดเจน และมีความไม่แน่นอนอยู่ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทย รวมถึงการลงทุนอื่น ๆ แต่เชื่อว่าความกังวลจะไม่มากเท่ากับช่วงก่อนหน้า โดยประเมินแนวโน้มเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ส่วนปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มดีขึ้น ตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และหากการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จได้ในปีนี้ นักลงทุนต่างชาติก็พร้อมกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้เราคงเป้าเงินบาทสิ้นปีอยู่ที่ 32.35-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ สาเหตุจากความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า ทำให้ประชาชนระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ ซึ่งเม็ดเงินที่จะเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมีน้อยลง ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มว่าทั้งปีนี้จะติดลบ 2% มากกว่าเดิมที่คาดไว้ว่าจะติดลบ 1% ก็ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ภาคส่วน