สอบเค้นชายชาวคาซัคสถาน ผู้ต้องสงสัยยิงนักธุรกิจชาวรัสเซีย จ.ภูเก็ต

วันที่ 9 มิ.ย. 2566 เวลา 07:04 น.

สนามข่าว 7 สี - ตำรวจยังสอบเค้นชายชาวคาซัคสถาน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นมือปืนยิงนักธุรกิจชาวรัสเซีย โดยเขายังคงปฏิเสธ เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหาอยู่เกินกำหนดวีซาในประเทศไทย หรือ โอเวอร์สเตย์ ย้อนไปดูเหตุการณ์อีกครั้ง ขณะที่นักธุรกิจชายชาวรัสเซีย อายุ 44 ปี ขับรถเก๋งเข้าไปลานจอดรถร้านอาหารย่านการค้า ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต คนร้ายเดินเข้ามาใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ 4 นัดซ้อน กระสุนทะลุกระจกรถถูกนักธุรกิจชาวรัสเซียที่หน้าอก รักแร้ ต้นแขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากการสอบสวนพบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่หลายรอบ คาดว่ามาดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสที่ผู้บาดเจ็บขับรถมาที่ร้านอาหารจุดนี้ จึงลงมือยิงอย่างไม่ยั้ง ตำรวจได้กระจายกำลังออกตามล่าตัวไปตามจุดต่าง ๆ ตามที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้   โดยพบเสื้อเจ็กเกต รองเท้า แว่นตา ถุงมือ และอาวุธปืน ถูกทิ้งในหนองน้ำห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ส่วนรถจักรยานยนต์ได้จอดอยู่ข้าง ๆ หนองน้ำ นักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ช่วยกันค้นหาของกลางในสระน้ำ จนถึงตอนนี้ยังหาไม่ครบ โดยเฉพาะอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เพราะจะเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี และหาความเชื่อมโยงกับคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาให้ได้ของกลางทั้งหมด ขณะที่ ชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่า มือปืนรายนี้เป็นชายชาวคาซัคสถาน จึงได้บล็อกเส้นทางเข้า-ออกเมืองภูเก็ตทุกจุด กระทั่งพบว่ากำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวไว้ได้ ขณะจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปประเทศรัสเซีย ก่อนนำตัวมาสอบเค้นที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต   เบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับคดียิงนักธุรกิจชาวรัสเซีย บอกเพียงว่า ต้องการพบเจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศคาซัคสถาน ซึ่งตำรวจก็ได้ประสานให้มาพบแล้ว และได้อธิบายถึงขั้นตอนในการดำเนินคดี   ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าชายชาวคาซัคสถานคนนี้อยู่เกินกำหนดวีซาในประเทศไทย หรือ โอเวอร์สเตย์ จึงแจ้งข้อหานี้ก่อน และสอบสวนขยายผลถึงคดียิงนักธุรกิจชาวรัสเซีย โดยตำรวจมีหลักฐานแน่นหนา ทั้งรถจักรยานยนต์ เสื้อคลุมสีเขียว รองเท้า ถุงมือ และ หมวกกันน็อก ที่สวมใส่วันเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีพยานเห็นคนร้ายขว้างสิ่งของลงในหนองน้ำ และเท้าติดโคลน ขาดเพียงอาวุธปืนที่ยังหาไม่พบ ส่วนสาเหตุน่าจะขัดแย้งเรื่องธุรกิจ สำหรับนักธุรกิจชาวรัสเซียยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งอาการปลอดภัยแล้ว โดยตำรวจดูแลความปลอดภัยให้อย่างเข้มงวด