เขื่อนหลักในยูเครนเสียหายจากการสู้รบทำให้น้ำไหลทะลัก หวั่นน้ำท่วมครั้งใหญ่

วันที่ 6 มิ.ย. 2566 เวลา 14:59 น.

เขื่อนหลักในภูมิภาคทางตอนใต้ของยูเครนที่รัสเซียเข้าควบคุม ได้รับความเสียหายจากระเบิดในการสู้รบ ทำให้ปริมาณน้ำมหาศาลไหลทะลัก หวั่นน้ำท่วมครั้งใหญ่ ขณะที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า เป็นความผิดของฝ่ายตรงข้าม และขณะนี้ได้ประกาศอพยพประชาชนแล้ว วันนี้ (6 มิ.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เขื่อนหลักที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ที่เมืองโนวาคาเคฟกา ภูมิภาคเคียร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นเขตที่รัสเซียเข้าควบคุม เกิดความเสียหายจากแรงระเบิด ส่งผลให้ปริมาณน้ำมหาศาลไหลทะลักออกจากรอยแตกของเขื่อน โดยเขื่อนดังกล่าวมีความสูง 30 เมตร ยาว 3.2 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำนีเปอร์ หรือ ดนีโปร และเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าพลังน้ำคาเคฟกา รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำที่ส่งน้ำเพื่อใช้ในกระบวนการหล่อเย็นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ของยูเครน ด้วย ขณะที่ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสี่ยงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เนื่องมาจากความเสียหายของเขื่อนดังกล่าว แต่จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมากล่าวหาว่า รัสเซียเป็นผู้สร้างความเสียหายให้กับเขื่อน ขณะที่กองทัพยูเครนระบุว่า กองกำลังของรัสเซียเป็นผู้ระเบิดเขื่อน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของภูมิภาคเคียร์ซอนที่รัสเซียเป็นผู้แต่งตั้งเปิดเผยว่า ฝ่ายยูเครนทำการโจมตีเขื่อนหลายครั้ง ในช่วงเวลาราว 23.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น แต่เขื่อนไม่ถูกทำลายทั้งหมด และทางการได้ประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมแล้ว