ผัวเศร้า สูญเสียเมีย-ลูก ตรวจพบครรภ์เป็นพิษ รพ.อำเภอ ใน จ.ระยอง ฉีดยาดูอาการ 2 วัน ส่งตัวไป รพ.จังหวัดช้า

วันที่ 31 พ.ค. 2566 เวลา 12:53 น.

วันนี้ (31 พ.ค. 66) ที่ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายหนึ่ง อายุ 42 ปี และนางน้อย อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นสามีและแม่ภรรยา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่ง ใน จ.ระยอง รักษาภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ นายหนึ่ง กล่าวว่า น.ส.นิด ภรรยาอายุ 37 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน ได้ฝากครรภ์ไว้ที่โรงพยาบาลอำเภอ กระทั่งวันที่ 25 พ.ค. 66 ภรรยามีอาการปวดท้องมากเหมือนจะคลอดลูก จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอำเภอดังกล่าว แพทย์ได้วัดความดัน ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์ ก่อนจะบอกว่าภรรยาตนมีภาวะเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ เด็กจะคลอดก่อนกำหนด ต้องฉีดยาระงับการคลอด เนื่องจากถ้าให้เด็กคลอดออกมาปอดจะไม่แข็งแรง และจะต้องฉีดยา 4 เข็ม ระยะห่างกัน 12 ชั่วโมง โดยกำหนดฉีดยาเข็มที่ 1 วันที่ 25 พ.ค. เวลา 18.00 น. เข็มที่ 2 วันที่ 26 พ.ค. เวลา 06.00 น. เข็มที่ 3 วันที่ 26 พ.ค. เวลา 18.00 น. เข็มที่ 4 วันที่ 27 พ.ค. เวลา 06.00 น. พร้อมให้ผู้ป่วยนอนรอดูอาการอยู่ในห้องเตรียมคลอด ซึ่งญาติจะนอนเฝ้าไม่ได้ ต่อมาเช้าตรู่ของวันที่ 27 พ.ค. มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้โทรมาหาตน บอกให้รีบไปที่โรงพยาบาล เพราะจะต้องส่งตัวภรรยาไปโรงพยาบาลจังหวัดด่วน เมื่อไปถึงตนเห็นเจ้าหน้าที่กำลังเข็นเตียงผู้ป่วยที่ภรรยานอนไม่ได้สติและมีอาการชักเกร็งกลับมาที่ห้องเตรียมคลอด พร้อมกับใส่เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นไม่นานโรงพยาบาลอำเภอก็ได้ส่งตัวภรรยาไปที่โรงพยาบาลจังหวัด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลจังหวัด แพทย์ให้นำผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินทันที และแพทย์บอกว่าภรรยาตนมีอาการน้ำท่วมปอด ส่วนเด็กในครรภ์เสียชีวิตแล้ว และแม่ก็มีอาการ 50-50 ก่อนที่แพทย์จะทำการปั๊มหัวใจถึง 2 รอบ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตภรรยาตนไว้ได้ และผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาเบื้องต้น แพทย์ระบุว่า เสียเลือดมากจากรกเกาะทะลุมดลูก นายหนึ่ง บอกว่า ตนติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลอำเภอน่าจะตรวจเจออาการตั้งแต่ฝากครรภ์และทำการรักษา ทางภรรยาและลูกของตนอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ ที่ผ่านมาผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลแห่งนี้บางคนก็ต้องสูญเสียลูก หรือสามีอาจจะสูญเสียภรรยามาแล้วหลายคน ซึ่งตนต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับภรรยาและลูก และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดขึ้นกับใครอีก จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม หลังรับแจ้งเรื่องร้องทุกข์ นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง ให้นายหนึ่ง เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองระยอง จากนั้นนายหนึ่งและแม่ยายมีความประสงค์จะเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ด้วยตนเอง ที่มูลนิธิปวีณาฯ ล่าสุดวันนี้ นางปวีณา ได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.รุ่งเรือง รับปากจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และประสานสาธารณสุขจังหวัดระยองตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและหามาตรการป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก นางปวีณา กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลอำเภอแห่งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีแม่มาร้องมูลนิธิปวีณาฯขอความเป็นธรรมลูกเสียชีวิต มูลนิธิปวีณาฯได้ประสาน นพ.รุ่งเรือง และ นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ.ระยอง ให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ผ่านมาได้ไม่นานก็มีเหตุการณ์ทั้งแม่ทั้งลูกเสียชีวิตอีกในครั้งนี้ จึงขอให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบ เพื่อทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง และจะได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมีเหตุการณ์น่าเศร้าใจเด็กหรือแม่ต้องมาเสียชีวิตอีกต่อไป