นทท.ไต้หวันโวย แค่ 13 กม.จากอิมแพค-ไป MRT บางโพ แท็กซี่เรียก 2,000 บาท

วันที่ 29 พ.ค. 2566 เวลา 16:13 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน เรียกรถแท็กซี่จากอิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี ให้ไปส่งที่ MRT บางโพ โดยระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ไปดูกันว่าโชเฟอร์แท็กซี่รายนี้จะเรียกเงินผู้โดยสารคนนี้เท่าไหร่ คลิปนี้เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ลงไว้ พร้อมระบุข้อความว่า จากอิมแพคไป MRT บางโพ 2,000 คลิปสั้น ๆ แต่ชัดเจน โดยในคลิปเป็นชายชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย กำลังเรียกรถแท็กซี่ แต่กลับเจอราคาเหมา ซึ่งภายในคลิปต่างมีคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงราคาที่แพงเกินจริง รวมถึงท่านั่ง และการแต่งตัวของโชเฟอร์แท็กซี่ด้วย งานนี้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างมาก ส่วนใหญ่ต่างสงสัยว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนในการดูแลเรื่องนี้กลับปล่อยให้บรรดาแท็กซี่เหล่านี้กระทำผิดอยู่ได้ ทั้งที่หลักฐานก็มีอยู่ให้เต็มไปหมด พร้อมเรียกร้องให้ใครก็ได้ช่วยจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณอิมแพ็ค เมืองทองธานี ถนนป็อปปูล่า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว ไม่พบกับโชเฟอร์แท็กซี่ที่อยู่ในคลิป ทีมข่าวเราจึงได้ไปสอบถามกับเพื่อนร่วมอาชีพที่ขับรถแท็กซี่อยู่บริเวณนั้น ได้พบกับ นายวีระ คณาดี อายุ 65 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า การขับแท็กซี่หากเป็น Grab จะมีราคาเหมาตามหน้าแอปฯ แต่ถ้าแท็กซี่ทั่วไปไม่มีการเหมาจ่าย ใกล้หรือไกลต้องกดมิเตอร์อย่างเดียว เพราะผิดกฎหมาย ยกเว้นออกนอกปริมณฑลจะมีราคาเหมา ปกติแล้วจากเมืองทองไป MRT บางโพ ประมาณร้อยกว่าบาทแค่นั้น ไปเรียก 2,000 บาท มันไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย คนทำมาหากินสุจริตอย่างตนก็อาจจะโดนเหมาไปด้วย ต่อให้จะเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลแต่การแต่งกายต้องถูกต้องตามกฎหมาย มียูนิฟอร์มของโชเฟอร์แท็กซี่ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอสั่งปรับได้ ตนก็เคยโดนปรับมาแล้ว ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายดีที่สุด หากทำผิดกฎหมายขนส่งก็จะมีขั้นตอนในการลงโทษ เช่น ทำผิดแรก ๆ คือ โดนปรับ ทำบ่อย ๆ ก็จะโดนเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ไม่สามารถขับรถแท็กซี่ต่อได้ ล่าสุด วันนี้ กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกผู้ขับรถคันดังกล่าว คือ นายกิตติพงษ์ พวงแก้ว ซึ่งเป็นผู้ขับรถในวันเวลาดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง โดย นายกิตติพงษ์ ให้การยอมรับว่า ได้เรียกเหมาค่าโดยสารจริงตามที่ได้มีเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ ทาง กรมการขนส่งทางบกพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ขับรถมีความผิดฐานไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และการแต่งกายไม่ถูกต้อง จึงได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 90 วัน พร้อมทั้งบันทึกประวัติการกระทำความผิดไว้ในระบบ หากพบว่ามีการกระทำความผิดซ้ำจะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป