เคลื่อนไหวแล้ว ณัฐวุฒิ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แบ่งรับแบ่งสู้ ประธานสภาฯ

วันที่ 28 พ.ค. 2566 เวลา 07:11 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ความเคลื่อนไหวทางโซเชียลระหว่าง พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ดูเหมือนกำลังพักยก ในการช่วงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากรอ ถก 8 พรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง 30 พฤษภาคมนี้ ขณะที่ผู้ที่มีรายชื่อแคนดิเดต ประธานสภาฯ ของพรรคก้าวไกล แบ่งรับแบ่งสู้ ในตำแหน่งนี้ เคลื่อนไหวแล้ว ณัฐวุฒิ แบ่งรับแบ่งสู้ ประธานสภาฯ เป็นความเคลื่อนไหวครั้งแรก ของนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตอบคำถามผู้สนับสนุน ที่เชิญชวนให้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า "ขอบคุณมากครับ แต่ขอทำงานที่ถนัดและรับปากไว้กับพี่น้องประชาชนก่อนนะครับ" อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ได้นัดประชุมวันอังคารที่ 30 พฤษภาคมนี้ หารือความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลทั้งในตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังไม่ลงตัว ธีรัจชัย ยืนยัน พรรคก้าวไกล ยังไม่เคาะชื่อ ประธานสภาฯ  เช่นเดียวกับ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ สส. กทม. ผู้ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร อีกคนของพรรคก้าวไกล ตอบคำถามผู้สนับสนุนผ่านโซเชียลระบุ "ข่าวที่ออกมาทั้งหมดเป็นข่าวลือ เพราะพรรคมีลำดับขั้นตอนในการพิจารณา ส่วนตัวเห็นว่า มีผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาฯมากกว่า ทั้งนี้ตนขอทำหน้าที่ สส.ให้ดีที่สุด" สว. เดือด ไม่ขอเรียกท่านประธานสภาฯ ที่เคารพ  นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความว่า "#คิดหนักมาก เปิดประชุมร่วมรัฐสภาสมัยหน้า ดูรายชื่อ ว่าที่ประธานสภาฯ ที่พรรคกร้าว เสนอ ไร้ฝีมือ ด้อยคุณภาพ ไม่ขอเรียกท่านประธานสภาฯ ที่เคารพแน่นอน #กระดากปาก ว่าที่ท่านประธานสภาฯ ที่เคารพไม่ลง" ก่อนหน้านี้ นายสมชาย ออกมาปฎิเสธเสียงแข็ง กรณีที่พรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่า ได้เจรจาให้ สว. มีมติเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนากยรัฐมนตรี แล้วกว่า 20-40 คนนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งจากการตรวจสอบ มี สว.เพียง 5-6 คนเท่านั้น ที่จะเลือกนายพิธา แน่นอน พร้อมแบ่ง สว. ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มโหวตตามเสียงข้างมาก กลุ่มที่ไม่ต้องการให้แก้ไขมาตรา 112 กลุ่มที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเอง ด้วยการโหวตงดออกเสียง และกลุ่ม สว.ส่วนใหญ่ 80% ยังไม่ตัดสินใจ เพราะยังมีเวลาที่จะติดตามข้อมูลข่าวสาร เพื่อพิจารณาอย่างมีวุฒิภาวะและมีวิจารณญาณ อีกทั้งต้องรอขั้นตอนที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ คือ ประกาศรับรอง สส. จาก กกต.ใน 60 วัน รัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เลือกประธานสภาผู้แทนราษฏรซึ่งจะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ประธานรัฐสภานัดประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นยังมีเวลา ขออย่ากดดัน หรือ ใช้วิธีล่าแม่มด เช่น แจกที่อยู่ สว. ให้มวลชนตามไปกดดัน พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ยกมือหนุนนายกฯ ที่จะแก้ ม.112 นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ การจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงลำดับต้น ๆ จะพูดคุยกันเอง แต่หากมีพรรคการเมืองชวนไปร่วมรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีจุดยืน คือต้องไม่แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 หากพรรคที่มาชวนไปร่วมรัฐบาลมีเรื่องนี้ เรายอมไม่ได้ เพราะเรายึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะไม่ยกมือสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ที่ชูนโนบายแก้ไขมาตรา 112 และ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะอยู่นำพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป ภายใต้จุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ และสานต่อการทำงานเพื่อประชาชน