เปิดประเด็น : รีเซตกัญชากลับเป็นยาเสพติด

วันที่ 25 พ.ค. 2566 เวลา 11:20 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ข่าวใหญ่เปิดประเด็นวันนี้ อยู่กับเรื่องของสายเขียว"กัญชา" ที่ถกเถียงกันมานาน กัญชาทางการแพทย์ แต่กลับเปิดช่องเรื่องนันทนาการ กระทั่งกำลังจะมีการปรับนโยบายครั้งใหญ่ ให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นโยบายที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบอย่างไร เส้นทางให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจะเดินแบบไหน แต่ก่อนอื่นไปฟังเสียงผู้ประกอบการที่กำลังจะได้รับผลกระทบจากนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปกันก่อน ผู้ประกอบการสายเขียวผวา นโยบายคืนกัญชาเป็นยาเสพติด เป็นเสียงจากคนหัวอกเดียวกัน ทั้งผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ย่านนนทบุรี และร้านจำหน่ายกัญชา ในจังหวัดภูเก็ต ที่สะท้อนมุมผลกระทบ หาก "ว่าที่รัฐบาล" จะนำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด โดยมีกฎหมายควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชาอีกครั้ง เพราะตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่รัฐบาลปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติด ก็เดินหน้าทุ่มเงินหลักหมื่นถึงหลายล้านบาท ลุยธุรกิจสายเขียวเลี้ยงปากท้อง เมื่อดูข้อมูล จากกระทรวงสาธารณสุข ใน "แอปปลูกกัญ" จนถึงมีนาคมที่ผ่านมา พบผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 1.14 ล้านคน ออกใบรับจดแจ้งกัญชาแล้วกว่า 1,104,000 ใบ จากตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำ มีผู้เดินสู่ธุรกิจสายเขียวจำนวนมาก แม้สัดส่วนการลงทุนจะต่างกัน แต่เงินที่ควักไปไม่มีใครอยากให้สูญเปล่า ขณะนี้จึงรู้สึกไม่มั่นคงกับนโยบายส่งคืนกัญชาสู่โหมดยาเสพติด พรรคภูมิใจไทย แนะปัดฝุ่นร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยุติปัญหาให้ชาวสายเขียว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ผู้ผลักดันให้กัญชาออกจากยาเสพติด เสนอว่า การปัดฝุ่นร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ค้างเติ่งในสภาฯ อาจเป็นหนทางที่ดีกว่านำกัญชาเป็นยาเสพติดจนเกิดผลกระทบตามมา พรรคก้าวไกล จ่อออกกฎหมายคุมกัญชาเฉพาะ แก้ผลกระทบนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไปตามกันต่อกับพรรคก้าวไกล แกนนำตั้งรัฐบาล จะมีทางออกต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร เบื้องต้น เตรียมเสนอร่างกฎหมายกัญชาแยกเฉพาะ โดยจะฟังเสียงจากทุกภาคส่วนก่อนดำเนินการ และก่อนมีกฎหมายดังกล่าว ก็จะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เข้ามากำกับนำร่องก่อน ป.ป.ส. เผย ขั้นตอนนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดไม่ยุ่งยาก ฟังแบบนี้แล้วอาจเบาใจขึ้นบ้าง แต่ก็มีคำถามตัวประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้อำนาจฝั่งบริหารนำร่องรอกฎหมายหลัก จะยุ่งยากล่าช้าหรือไม่ ไปฟังคำตอบจาก เลขาธิการ ป.ป.ส. นโยบายกัญชาตั้งแต่ต้นจนมาถึงจุดเปลี่ยน มีสองมุมมองมาโดยตลอด กรณีล่าสุดก็ไม่แตกต่างกัน สุดท้ายผู้มีอำนาจจึงต้องยึดหลักสมดุล กัญชาทางการแพทย์ ควบคุมเรื่องนันทนาการ มีความชัดเจนเกี่ยวกับการนำกัญชาไปใช้ในเชิงเศรษฐกิจว่าจะทำได้แค่ไหน ซึ่งทั้งหมดนี้คงต้องรอดูหลังมีรัฐบาลใหม่