ลิงแสมลพบุรีโดนลูกดอกยาสลบ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือทันควัน มือยิงหลบหนีไปได้

วันที่ 2 พ.ค. 2566 เวลา 09:05 น.

ลิงแสมลพบุรีโดนลูกดอกยาสลบ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือทันควัน มือยิงปืนรถยนต์หลบหนี โยนหลักฐานทิ้งเกลื่อน เร่งประสานตำรวจล่าตัว ลิงแสมลพบุรีโดนล่า วันนี้(2 พ.ค.2566) นายเกริกวิทย์ ภูมิพยัคฆ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ ตำบล ซับตะเคียน อำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 09.40 น. คณะเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ ได้ร่วมกันออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ ซึ่งออกตรวจกันอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง จากการออกตรวจเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ HONDA รุ่น CR-V สีเทา สุพรรณบุรี มีบุคคลมีพฤติกรรมนำอาหารมาล่อลิง คณะเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวเห็นพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ขับหลบหนีก่อนจอดรถทิ้งและหลบหนีเข้าป่าไปได้ เมื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบกล่องลังพลาสติก 1 กล่อง ถุงตาข่ายไนลอน จำนวน 2 ถุง จึงนำหลักฐานต้องสงสัยดังกล่าวออกมาไว้บริเวณรถต้องสงสัย ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 3 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง ) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล เพื่อร่วมกันตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากนั้น เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจสอบบริเวณที่พบรถต้องสงสัยครั้งแรก พบลูกดอกยาสลบลักษณะถูกใช้งานแล้ว จำนวน 3 ดอก และลิงแสมเพศผู้จำนวน 1 ตัว สลบอยู่ในป่า และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สลิงดูดยา จำนวน 2 อัน เข็มฉีดยา ยาสลบสัตว์  ท่อเป่าลูกดอก เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบระหว่างทางจากจุดพบรถต้องสงสัยครั้งแรกถึงจุดที่รถต้องสงสัยจอด พบสิ่งของถูกโยนทิ้งไว้ เป็นลูกดอกยิงยาสลบ สำเนาเอกสารส่วนตัว และอุปกรณ์การกระทำความผิดอื่น ๆ คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยบาดาล เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนลิงแสมของกลางฟื้นจากยาสลบแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาดูแล ก่อนประเมินความพร้อมปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติในที่ปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้ การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยที่ไม่มีหลักฐาน การอนุญาตให้ค้า ครอบครอง และเพาะพันธุ์ ของทางราชการ มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน "มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี" มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 29 ฐาน "ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562